Yeosu Expo 2012 : Korea # ตอนที่ 2

ขณะนี้ผมก็ยังคงอยู่ในงาน “ยอซู เอ็กซ์โป 2012” ณ เกาหลีครับ ซึ่งความเดิมจากตอนที่แล้ว
ที่ผมได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มกำลัง ต่อแถวเพื่อไปเก็บภาพสวยๆ จากอควาเรียมมานั้น
หวังว่าจะชื่นชอบกันนะครับ

เอาล่ะครับ สำหรับตอนนี้ เป็นเรื่องราวหลังจากที่เราไปชมอควาเรียมกันครับ ซึ่งก็ต้องบอกก่อน
ครับว่า ภายในงาน พื้นที่ประมาณ 150 กว่าไร่นั้น กว้างใหญ่มาก มีการจัดการแสดงในอาคาร
ลักษณะเดียวกันกับอควาเรียมนั้นเยอะ หากแต่ว่าในวันหยุดแบบนี้ คนจะเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ
จึงทำให้ไม่สามารถเก็บภาพมาได้ทุกกิจกรรมจริงๆครับ

แต่ความตั้งใจของเฟรมก็คือ การที่จะได้ไปดูบูธนิทรรศการนานาชาติ ที่แน่นอนว่า ประเทศไทย
ของเราก็ได้มาจัดแสดงถึงที่เกาหลีด้วย…  ผมจึงเดินหน้า มุ่งไปที่อาคาร International
Pavilion ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ก็มีการจัดงานของหลายประเทศนอกจากประเทศไทย

Thailand Pavilion @ Yeosu Expo 2012

และแล้วผมก็มาถึง กลิ่นอายของความเป็นไทยลอยฟุ้งเข้ามาเลยครับ

สีของบูธนิทรรศการประเทศเรานั้น สวยสด งดงามมาก ไม่ว่าจะเป็นการนำภาพฝาผนัง จากวัด
วัดอัมพวันเจติยาราม จ.สมุทรสงคราม ซึ่งผมก็มีโอกาสไปเที่ยวในทริปอัมพวา ที่เคยเอามาเล่า
ในบล็อกเหมือนกัน(เอามาขุด) รวมไปถึงการสร้างเอกลักษณ์ สร้างมาสคอตที่สอดคล้อง
กับเรื่องราวของท้องทะเลบ้านเรา ด้วยการนำเอาเรื่องราวจากพระอภัยมณี มาผูกเป็นเรื่อง
และสอดคล้องกับงาน โดยการให้ตัวละครอย่าง สุดสาคร และม้านิลมังกร เป็นตัวละคร
เล่าเรื่อง แน่นอนว่า เพิ่มความน่ารักและสดใส ให้กับบูธของประเทศไทยเป็นอย่างมาก

เรื่องราวของตัวละครจากเรื่องพระอภัยมณี ถูกถ่ายทอดสู่สายตาคนเกาหลีและชาวต่างชาติ บนจอขนาดใหญ่ ในส่วนของนิทรรศการประเทศไทย (Thailand Pavilion)

บูธของประเทศไทยนั้น มีด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วนครับ ส่วนแรกคือ จะอยู่ด้านหน้าเลย ตรงนี้
จะมีเวทีสำหรับการแสดงต่างๆ เช่น มวยไทย, รำ หรือการจัดกิจกรรมต่างๆ ตรงนี้มีชื่ออย่าง
เป็นทางการว่า นิทรรศการส่วนต้อนรับ (From Oversea to Thailand Overview) สุดโพ้น
แห่งสาคร กำเนิดละครวรรณคดีมีชีวิต”

บนจอขนาดใหญ่แบบ Interactive ซึ่ง Interactive นั้นคือ การที่จอสามารถจะมีปฏิสัมพันธ์กับคน
ที่มาท่องเที่ยวได้ มีอยู่ช่วงนึงที่มีการจับภาพไปที่คนดู แล้วมีการจับภาพ (detect) ใบหน้าคน แล้ว
เติมแว่นตาดำน้ำให้เนี่ย ถือเป็นการเอาเทคโนโลยีมาผสมผสานกันได้อย่างดีทีเดียว และนอกจาก
นั้นก็จะยังจะฉายเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประเทศไทยเป็นสองภาษาครับ คือภาษาเกาหลี และอังกฤษ

Interactive LCD from Thailand Pavilion Yeosu Expo
ดูสิครับ จอแบบ Interactive นี่มีการเล่นกับคนด้วย ซนขนาดไหน ^^

บนเวทีนั้น ก็ใช่จะนิ่ง ฉายแต่เรื่องราวของความเป็นไทย อย่างเดียวเท่านั้น ยังมีหุ่นยนต์ยักษ์ที่
สามารถขยับได้ด้วยครับ

Thai giant

การต่อแถวเพื่อจะเข้าชมบูธของประเทศไทย สำหรับวันนั้น ผมใช้เวลาประมาณ 10 นาทีครับ
และนี่คือของที่ระลึกจากบูธนิทรรศการของประเทศไทย เป็นแมกเนตติดตู้เย็นครับ

พร้อมกันแล้ว ก็ไปดูวิดิโอฉบับต้นฉบับของผมที่มีอยู่ทั้งหมดกันเลยครับ แล้วพบกับคำบรรยาย
ของแต่ละส่วนพื้นที่กิจกรรมถัดจากวิดิโอนะครับ

เข้ามาข้างใน ก็จะเป็นห้องอีกห้องหนึ่ง ภาพที่คุณจะเห็นในตอนแรก ก็จะเป็นจอขนาดใหญ่ พร้อม
กับหุ่นยนต์ของนางเงือก ที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับท้องทะเลของไทย การอนุรักษ์ทรัพยากรทาง
ธรรมชาติในท้องทะเล และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับเกาหลี รวมไปถึงพระราชกรณีย
กิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีต่อ
ท้องทะเลไทยครับ ส่วนนี้มีชื่อเป็นทางการว่า “ปริศนาแห่งบาดาล ตำนานนาควารินทร์สิทธุ์
สมุทร
(The Secret of Nak-varinthu-sinsamuth)”

และถัดจากนี้ ก็จะมาอีกห้องหนึ่งครับ ซึ่งห้องนี้ขอบอกว่า อลังการงานสร้างมากๆ เพราะว่า ห้องนี้
ได้ใช้เทคนิคจอภาพรอบด้าน แบบ 360 องศากันเลยทีเดียว ในการนำเสนอ ใต้ท้องทะเลของไทย
ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ และความแตกต่างของท้องทะเลไทย กับท้องทะเลอื่นๆ
ด้วยการนำกองทัพช่างภาพไปเก็บภาพเคลื่อนไหวใต้ท้องทะเล ซึ่งดูเบื้องหลังการทำบูธ
นิทรรศการของประเทศไทย ได้จากวิดิโอข้างล่างนี้ครับ ส่วนห้องที่ฉายวิดิโอแบบ 360 องศานี้
มีชื่อเรียกว่า “ท่องไปในสินแห่งสมุทร ที่สุดแห่งความงดงาม (Deep Journey to
Diversity of
the Sea)”

เมื่อดูจบแล้ว ก็จบประมาณว่า นี่คุณมาถึงท้องทะเลประเทศไทยแล้ว จะไม่เปียกกันเลยได้ยังไง
เท่านั้นแหละครับ น้ำก็ถูกพ่นออกมา รอบด้าน ให้สดชื่นกันเล่นๆ คงสร้างความประทับใจส่งท้ายให้กับ
นักท่องเที่ยว ที่มาชมงานได้ไม่น้อย

ก่อนที่เราจะเดินทยอยเดินกันไปอีกห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องที่จำหน่ายสินค้าที่ระลึก และนิทรรศการ
แสดงความพร้อมในการที่ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพในการจัดงานลักษณะเดียวกันกับ ยอซู เอ็กซ์โป
นี้ ในปี พ.ศ.2563 (ค.ศ. 2020) ครับ ซึ่งขั้นตอนในตอนนี้ ก็เป็นการแสดงความพร้อม ก่อนที่จะประกาศ
ผล ประมาณปีหน้าครับ) โดยประเทศไทยนั้น เสนอจังหวัด พระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดเจ้าภาพในการ
จัดงาน Ayutthaya Expo ในปี 2020 นี้

Ayutthaya Expo 2020

Flashdrive Thailand Pavilion Yeosu Expo 2020
Flashdrive ที่ระลึกจากบูธของ Thailand Pavilion @ Yeosu Expo ครับ 🙂
แผ่นรองเมาส์ และปากกา …. แพงใช้ได้เลย T^T
เสื้อโปโลครับ เลยได้อุดหนุนมาหนึ่งตัว ~ หมดไป 20,000 วอน 560 บาท T^T

ก็จบกันไปครับสำหรับบูธของประเทศไทย วันนั้นใส่เสื้อ สวัสดีประเทศไทย Thailand ของสมาคม
นักเรียนไทยในเกาหลี แล้วภูมิใจมากๆ ที่ประเทศไทยนั้นแสดงความเป็นมืออาชีพในการนำเสนอ
เรื่องราวต่างๆเหล่านี้ มาโยงให้เป็นเรื่อราวได้ดีจริงๆครับ

ขอเสียงปรบมือ ~!!

ก่อนที่จะออกมาดูประเทศอื่นๆบ้างครับ นี่ก็เป็นภาพบางส่วน ต้องขอบอกครับว่า บางประเทศนั้น
ก็จะเป็นเหมือนกับการจัดแสดง มีการแสดงนิดหน่อยๆ ไม่ได้ใช้เทคนิคอะไรมาก เหมือนพี่ไทยเรา
จึงไม่แปลกใจที่แถวของบูธเราคนจะเยอะเอามากๆ แต่ประเทศอื่นๆนั้น ก็สามารถต่อแถวไม่นาน
และเข้าไปชมได้ครับ และนี่คือประเทศศรีลังกาครับ ด้วยความที่ร้อยละ 70 ของคนในประเทศนี้
นับถือศาสนาพุทธ ในส่วนของประะเทศศรีลังกาจึงมีพระพุทธรูปด้วย

ก็ยังไม่ลืมความเป็นไทย ใส่พับเพียบไทยแลนด์เข้าไปด้วย 😀

จากนั้นเราไปดูในนิทรรศการของประเทศเพื่อนบ้านเราบ้างครับ อย่างกัมพูชา และเวียดนาม

Cambodia Pavilion @ Yeosu Expo 2012

Animation ของประเทศกัมพูชาที่มาเล่าเรื่องอะไรสักอย่างครับ ไม่ได้ติดตาม

Vietnam Pavilion @ Yeosu Expo 2012

ของที่ระลึกจากเวียดนาม

พักเบรค….

เรื่องราวจากตอนที่แล้ว จนถึงตอนนี้ ณ เวลานี้ ผมยังไม่ได้กินอะไรเลยครับ ในงานนั้นมีร้านอาหาร
อยู่พอสมควร ซึ่งแน่นอน สินค้าในงานก็แพงเป็นเรื่องธรรมดา (บวกกับค่าครองชีพในเกาหลี)
มีร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ที่คนเกาหลีจะนิยมกินกันอยู่บ้างอย่าง ลอตเตอเรีย (Lotteria) ที่ผมเห็น
ว่าคนไม่ค่อยเยอะมาก พอจะไปยืนๆต่อแถวกันได้ ผมจึงไปพักเหนื่อยกันที่นั่นครับ และที่นี่ก็
ขี้เหนียวมาก ทำไมไม่เปิดแอร์ก็ไม่รู้ (เข้าใจว่าคงไม่อยากให้คนอยู่นาน) ปกติแล้ว อากาศร้อน
แบบนั้น ผมอยู่ไม่ได้นานครับ แต่ด้วยความเหนื่อย กับผ้าซับเหงื่อที่พันรอบคอผมมาแสนนาน
ผมหลับอยู่ตรงนั้นได้ประมาณเกือบชม. ก่อนที่จะไปลุยกันต่อ

แออัดไปด้วยผู้คน แถมไม่เปิดแอร์ด้วยยยย…
ประทังชีวิตมื้อนั้นไป…

ตอนเย็นนั้น เรามีแผนจะไปดูน้ำพุยักษ์ Big-O กันครับ ซึ่งถือเป็นสีสันยามค่ำคืนกันเลยทีเดียว
แต่ดั้น บังเอิญวันนี้ มีงาน Asia Song Festival 2012 ที่ขนศิลปินเอเชีย รวมถึงประเทศไทย !!
มาแสดงในค่ำคืนนี้ แน่นอนว่า ผมก็ตื่นตาตื่นใจมาก ไปดูรายชื่อศิลปิน ก็มีทั้งศิลปิน K-POP
อย่าง B1A4, Ailee, SISTAR, Teen Top ฯลฯ และประเทศอื่นๆ อย่างสิงคโปร์, จีน สำหรับ
ประเทศไทยนั้น เป็นวง Candy Mafia ซึ่งผมขอสารภาพจริงๆครับ ว่าไม่รู้จัก T_T

NAVER @ Yeosu Expo 2012

ผมเองลังเลอยู่นานมาก ระหว่างที่เราลังเลไป เราก็ไปดูบูธอื่นๆไปด้วยครับ บูธนึงที่ผมอยาก
ไปดูของบูธของ NAVER ครับ (ถ้าอ่านตามเสียงสะกดภาษาเกาหลี อ่านว่า เนเวอร์ครับ)
ผู้ให้บริการโปรแกรม Line ที่หลายๆคนคงใช้กัน เป็นโปรแกรมแชทที่ได้รับความนิยม
(อย่างมากในบ้านเรา และที่รู้มาเพิ่มก็คือคนญี่ปุ่นก็เล่นกันเยอะมากๆ) แต่คนเกาหลีจะใช้
อีกโปรแกรมนึง ที่หน้าตาคล้ายกันมากๆ (เพียงแต่ไม่มี Sticker) ชื่อว่า Kakaotalk
(อ่านว่า กาเกาทอล์ก) โปรแกรมนี้แหละ คนเกาหลีใช้กันราวกับคนไทยใช้ Facebook เลย
เข้ามาข้างในก็เป็น Productivity ของบริษัท NAVER ที่มีหลากหลาย สำหรับคนเกาหลี
รวมไปถึงการโปรโมท Line ในเกาหลีครับ ภายนอกก็มีให้ถ่ายรูปกับเจ้า Cony,
James และ Brown ซึ่งเป็นตัวละครใน Line ครับ

ฟีเจอร์ของ Line เพื่อคนเกาหลี คือการแปลภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาเกาหลี เมื่อคุยกันกับคนญี่ปุ่น… รวมไปถึง Line ที่สามารถแสดงพยากรณ์อากาศได้ (มันคือบอตของ Line ดีๆนั่นเอง)

เอาเป็นว่าก็สมควรแก่เวลาแล้วครับ ที่ต้องตัดสินใจ เลือกไปสักงาน พวกเราจึงเลือกไปงาน
Asia Song Festival 2012 ครับ เราเดินไปยังอีกฝั่งหนึ่งของงาน เพื่อมาดู ก็พบว่าคนนั้น
เยอะมากๆ แต่โชคดีครับ ที่พวกเราเลือกไปเดินตรงกลางของเวที ที่ต้องยืน แต่ก็อาจจะ
ได้เจอศิลปินบ้าง แต่แลกกับต้องยืน แบ่งกระเป๋าด้วย ทรหด อดทน ไม่แน่จริง อยู่ไม่ได้ครับ

Asia Music Festival 2012 @ Yeosu Expo 2012

มหกรรมคนเกาหลี

ศิลปินแรกที่มาเปิดงานเลยก็เป็น A1B4 บอยแบนด์เกาหลีครับ ด้วยความที่ผมเองไม่ได้เป็น
แฟนศิลปิน K-POP มากสักเท่าไร ผมอาจจะบกพร่องข้อมูล สำหรับวงอื่นๆไป ผมเองก็
หยิบกล้องหลักซึ่งเป็น Sony NEX-5 กับ iPhone 4S สลับกันถ่าย บนพื้นที่สุดจะคับแคบ
เต็มไปด้วยแฟนเพลงคนเกาหลี แน่นอนครับว่าเหนื่อยสุดๆ…

แต่พอมาเห็นภาพถ่ายและวิดิโอทั้งหมดที่ได้จากงานแล้ว ก็นับว่าเป็นการใช้เวลาที่คุ้มค่าและที่สุดของผม
จริงๆ ผลงานข้างล่วงนี้ เป็นผลงานการยืนถ่ายของผมเองครับ แน่นอน มันคงสั่นๆบ้าง แปลกๆบ้าง ฮ่าๆ
ผมขอเริ่มจากวงแรกเลยแล้วกัน ชอบผลงานเพลงเพลงนึงของวงนี้ (จะบอกว่าไม่ค่อยชอบศิลปินเกาหลี
ที่ตัวบุคคลหรือวงเท่าไร ชอบเพลงมากกว่า) A1B4 , SISTAR และศิลปินคนไทยหนึ่งเดียวในงานนี้
Candy Mafia ที่นำการรำไทย มาแสดงก่อนเปิดตัววงครับ

ผมมีโอกาสได้ถ่ายการแสดงของ Candy Mafia มาอยู่ครับ แต่รู้สึกว่าถ่ายได้ไม่ค่อยดีเท่าไร จึงขออนุญาตนำคลิป
อื่นจาก YouTube ที่เป็นงานเดียวกันมาแทนนะครับ

A1B4

Ailee Yeosu Expo
Ailee เจ้าของผลงานเพลง Heaven ครับ
ศิลปินจากรายการ The Gag Show เกมโชว์ในเกาหลีครับ

ก่อนที่คืนนั้น เราจะไปพักกันที่จิมจิลบัง (찜질방) ซึ่งเป็นที่พักผ่อนเพื่อสุขภาพครับ เนื่องจาก
ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วย จึงขอเล่าเป็นรายละเอียดนิดนึง ค่าพักของจิมจิลบังนี้ จะราคาถูกกว่า
โรงแรมทั่วไปเยอะครับผม คืนละประมาณ 8,000 วอน หรือตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 200 บาท
ต่อคืน ถ้าพูดถึงจิมจิลบัง ก็ให้จินตนาการว่ามันคือ ห้องนอนรวม และมีห้องอาบน้ำรวม ในห้อง
อาบน้ำ ก็จะมีบ่อน้ำอุ่น บ่อน้ำเย็น ห้องซาวน่า จินตนาการว่าคุณได้แช่น้ำอุ่นผ่อนคลาย เข้าห้อง
ซาวน่าอบสมุนไพรกันซักเล็กน้อย ก่อนที่จะอาบน้ำเย็นๆ เช็ดตัวแล้วไปอยู่ในห้องแอร์ ดื่ม
เครื่องดื่มเย็นๆ เอาผ้าผูกหัวเหมือนกับที่คนเกาหลีเค้าทำกัน เป็นอะไรที่จะสดชื่นมากๆเลยครับ
ถามว่าอ้าว แล้วถ้าไม่ได้เตรียมตัวเอาอะไรมาเลยล่ะ เสื้อผ้าเปลี่ยนไม่มี เค้ามีเสื้อผ้าบริการให้
ครับ ทุกอย่างนั้นสะดวกสบายในจิมจิลบัง แต่ต้องแลกกับอิสรภาพของเราที่อาจจะไม่คุ้นเคย
นั่นก็คือ ทุกคนเปลือยหมดนะครับ… !

หน้าจิมจิลบัง จ่ายเงิน รับกุญแจตู้กับเสื้อผ้า

คนเกาหลีนั้น ชีวิตไม่ต้องสะดวกสบายมากครับ มันอาจจะสะดวกสบายมากกว่านี้ เนื่องจากว่า
คนเยอะ (ก็แหงแหละ คนไหนไม่อยากกลับบ้าน เดินออกจากงานมาประมาณ 600 เมตร ก็
ถึงที่จิมจิลบังแห่งนี้แล้ว) จริงๆแล้วที่นี่เป็นที่ที่สะดวกสบายที่นึงเลยทีเดียว แล้วก็ค่อนข้าง
แพร่หลายในเกาหลีครับ

ก่อนที่ผมจะตื่นขึ้นมา ด้วยเสียงเชียร์บอลของคนเกาหลี ที่ดังมากกกกก … เวลาประมาณตีสี่
ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างเกาหลีและอังกฤษ ในลอนดอนโอลิมปิกนั้น ผมเองก็ต้องจำใจตื่น
มา บ้างก็ยังคงหลับต่อ (ผมก็ไม่เข้าใจมันหลับกันลึกขนาดนั้นได้ยังไง) ผมเองก็นอนต่อไม่ได้
แล้วครับ เลยได้มานั่งดูบอล พร้อมกับชาร์จแบตโทรศัพท์ไปด้วย

ระหว่างเดินกลับ ให้เห็นเมือง Yeosu กันบ้างครับ ว่าที่นี่เป็นยังไง

รถไฟในเช้านั้นออกประมาณสิบโมงครึ่งครับ ผมจึงได้เดินออกไปหาอะไรกินแถวนั้น ก่อนที่จะ
นั่งรถไฟกลับ มารอที่ชานชลาก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการอนุรักษ์น้ำ และเทคโนโลยี
ของรถไฟในเกาหลีครับ ที่เป็นนิทรรศการจัดแสดงไว้ฆ่าเวลา น่าสนใจมากๆ เลยถ่ายมาให้
ได้ชมกันครับ

นิทรรศการรถไฟในเกาหลี
การพัฒนาของรถไฟรูปแบบต่างๆ ทั่วโลก แน่นอน ประเทศไทยไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง จึงไม่มีประเทศไทย 😛
เส้นทางการเดินรถไฟทั่วเกาหลี
รถไฟความเร็วสูง KTX
นิทรรศการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำครับ นี่เป็นภาพการเปรียบเทียบว่า กว่าจะได้มาซึ่งแต่ละอย่าง หรือการกระทำแต่ละอย่างนั้น ใช้น้ำไปเท่าไร
รูปแบบของเขื่อนเก็บน้ำในเกาหลีครับ มีปุ่มให้ได้ลองกดดูเล่นๆว่า ถ้ามีการระบายข้างบนเป็นอย่างไร ระบายข้างล่างเป็นอย่างไร ระบายออกหมดเป็นยังไง ไม่ระบายเลยเป็นอย่างไร

และนี่ก็เป็นการเดินทางที่แสนยาวนานจากกลางของเกาหลี ลงมาสู่ท้องทะเลของเกาหลี เพื่อ
มาสัมผัสประสบการณ์งานมหกรรมเอ็กซ์โปนานาชาติ และขอมาภูมิใจในความเป็นคนไทย ที่
มีโอกาสได้ชมนิทรรศการประเทศไทย และประสบการณ์หลายๆอย่างระหว่างการเดินทาง
ซึ่งผมเองก็ขอบันทึกไว้ ณ ตรงนี้ ผมหวังว่าใน 2 ตอนของการบันทึกการมางาน Yeosu Expo
2012 นี้ จะให้ประสบการณ์ให้กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ ผมเองก็หวังว่าจะมีโอกาสได้
นำเรื่องราวสนุกๆกับชีวิตในเกาหลีนี้ มาเล่าให้คุณผู้อ่านใหม่อีกครั้ง

แล้วเจอกันคร้าบบบ…. 🙂

สุขสันต์วันแม่ 12 สิงหาคม ครับ 🙂

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรื่องอื่นๆ