Being a camper in AYSF 2011 : Part 1

หลังจากที่เฟรมหายหน้าหายตา ไปนานพอสมควร จนพบว่านี่จะถึงวันครบรอบปีที่ 3 ของการเขียน
Framekung.com
แล้ว!! แน่นอนครับ ว่าการกลับมาของบล็อกตอนนี้แน่นอนว่า พิเศษสุดๆ
เพราะเฟรมอยากจะเล่าถึงประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งที่เฟรมมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรม
“APEC Youth Science Festival 2011” หรือชื่อภาษาไทยว่า “เทศกาลวิทยาศาสตร์
เยาวชนเอเปคครั้งที่ 4”
ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 20-26 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยปีนี้ประเทศไทย
เป็นเจ้าภาพ ภายใต้แนวคิด “From Nature to Technology” ครับ

aysf-2011-4th-thailand

ที่มาที่ไป…

เฟรมได้รับคัดเลือกจากทางรร.ให้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยได้รับโควตาจาก สพฐ.
โควตาสพฐ.จะให้ รร.ละ 1 คน ส่วน รร.ไหนที่มีโครงการวมว. ก็จะให้โควตาสำหรับนักเรียน
โครงการวมว. 4 คน ครับ โดยสิ่งที่ต้องทำก็คือ กรอกใบสมัคร เลือกกิจกรรมตามความสนใจ
ซึ่งเค้าจะเรียกเป็น Track ครับ โดยกิจกรรมก็จะมีหลากหลายครับ โดยคร่าวๆ ก็เช่น
Bio luminescence ที่จะได้เรียนรู้กลไกการเปล่งแสงของสิ่งมีชีวิตที่พบในธรรมชาติ และ
การนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์  Atomic Energy ที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานปรมาณู
และการนำไปใช้ประโยชน์ Fish Robot ที่เปิดโอกาสให้ชาวค่ายได้ชมพิพิธภัณฑ์ปลา และ
ศึกษาโครงสร้างทางกายภาพ กลไกการว่ายน้ำ ก่อนที่จะนำมาประดิษฐ์เป็นหุ่นยนต์ปลา

documents

ฟังกิจกรรมก็น่าสนใจแล้วใช่มั้ยล่ะครับ แต่เราก็จะได้เข้าร่วมเพียงบางกิจกรรมเท่านั้น
สำหรับเฟรม เฟรมได้ Track 10 ซึ่งจะมีสมาชิกภายในกลุ่มเป็นคนไทย รวมกับชาวต่างชาติประมาณ
50 คน เพื่อทำกิจกรรม 2 กิจกรรมด้วยกัน ตลอดระยะเวลา 4 วัน นั่นก็คือ Bio luminescence
และ Atomic Energy ครับ

(อ้อ !! กิจกรรมมีอีกเยอะเลยนะครับ เข้าไปอ่านรายละเอียดกิจกรรมอย่างละเอียดๆได้ที่
Science Camp Tracks ครับ)

Orientation day 20-8-2554

ในวันที่ 20 ซึ่งเป็นวันแรกของค่าย จะมีการปฐมนิเทศครับ ก็มีนักเรียนคนนึงแถวๆนี้ล่ะครับ ที่กำลัง
สะสางงานที่รร. และงานที่ตัวเองส่งประกวดกับเพื่อนๆ ทันทีที่ถึงสถานีขนส่ง จิตก็ตกแล้วครับ
เพราะว่ารถรอบเที่ยงนั้นไปเสียแล้ว ซึ่งเฟรมต้องใช้เวลา 3 ชม.ในการเดินทางครับ ระหว่างนั่งรถ
ก็คิดตลอดทางเลยว่า จะทันมั้ยเนี่ยๆๆ แถมรถยังมาติดอีก โหยย ตอนนั้นเรียกว่าจิตตกสุดๆเลยล่ะครับ

แต่โชคก็เข้าข้างเฟรมครับ เฟรมได้ยินโทรศัพท์จากพี่เลี้ยงในกลุ่มเฟรมโทรมา ถามเพื่อนคอนเฟิร์ม
เวลา เฟรมก็ได้บอกพี่เค้าว่าเข้าไปสาย ก็ค่อยโล่งขึ้นมาหน่อยครับ และในที่สุด เฟรมก็ไปทันเวลา
(แม้ว่าจะเลทนิดหน่อย สักครึ่งชม.ก็ตาม) ^^

1ในขั้นตอนของการปฐมนิเทศสำหรับนักเรียนชาวไทย ซึ่งเป็นประชากรส่วนมากในกิจกรรมนี้
สำคัญของการมาเข้ากิจกรรมร่วมกันแบบนี้ ก็คือการที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆคนอื่นๆ
ฟังดูแล้วอาจไม่ใช่ปัญหากับนักเรียนบ้านเรา หากแต่ว่า เพื่อนๆของเราจะเป็นชาวต่างชาติ
หลายๆคนก็ส่ายหน้าหนี ครั้งแรกที่ผมอาจจะคิดเช่นนั้นทันทีที่มีพี่ๆ ที่ผ่านประสบการณ์เข้าค่าย
จากเวทีระดับนานาชาติมาให้กำลังใจ รวมถึงการปฏิบัติตัวกับเพื่อนๆที่มาจากหลากหลายเชื้อชาติ
ก็เป็นสัญญาณที่ดี ที่ทำให้เฟรมและเพื่อนๆชาวค่ายอีกหลายคน กล้า มีทัศนคติใหม่ๆ และพร้อม
ที่จะพูดคุยกับเพื่อนๆจากต่างชาติ

keyword ที่สำคัญก็คือ เรามีความคิด มีเป้าหมาย มีความเป็นตัวของตัวเอง เราต้องรู้จักนำมันมา
แสดงให้คนอื่นรับรู้ ด้วยการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสาร เราสนทนาอย่างไม่ต้องกลัวถูกกลัวผิด
กล้าที่จะถามในช่วงซักถาม, อย่าปฏิเสธที่จะมานั่งหน้าๆ และเริ่มบทสนทนา
ด้วยประโยคที่ง่ายๆ
นั่นก็เป็นคำแนะนำดีๆที่พี่ๆเขานำมาฝากกันล่ะครับ ฟังแล้วคันหู
เอ๊ย คันไม้คันมือ อยากจะลงสนามไปคุยกับเพื่อนๆแล้ว…

มื้อค่ำมื้อแรก…ที่เฟรมทานข้าวกับเพื่อนๆชาวไทย… ที่พวกเราตั้งปณิธานร่วมกันอย่างแรงกล้าว่า
กินเสร็จแล้วเราจะไปคุยกับชาวต่างชาติให้จงได้ !!! เราต้องไปโชว์ว่าประเทศของเรา มีดี !!!

dsc00469-1

ผลก็คือ …..( ̄□ ̄;) กองทัพแตกครับ !! พวกเราพยายามเต็มที่แล้ว เอาไว้เป็นเรื่อง
ของวันถัดไปแล้วกันนะครับ

Opening Ceremony 21-8-2554

เช้านี้เรามีภารกิจครับ เพราะว่าวันนี้เรามีพิธีเปิดกิจกรรมนี้อย่างเป็นทางการ ที่ศูนย์นิทรรศการ
และแสดงสินค้าไบเทคบางนา โดยมีรถตู้มารับพวกเราไปจากที่พัก

dsc00483

ตื่นเต้นก็ตอนที่เพื่อนๆชาวต่างชาติที่จะมาอยู่ในกลุ่มเดียวกับเรานี่ล่ะครับ
ตื่นเต้นก็ตอนที่เพื่อนๆชาวต่างชาติที่จะมาอยู่ในกลุ่มเดียวกับเรานี่ล่ะครับ
โอ้วว...แม่เจ้า !! คนเยอะมากครับ เวทีก็สุดแสนอลังการ
โอ้วว...แม่เจ้า !! คนเยอะมากครับ เวทีก็สุดแสนอลังการ

วันแรกก็พิเศษสุดๆแล้วครับ เพราะตอนรับสมาชิกชาวค่ายและคุณครู ด้วยการบรรยายสุดพิเศษ
จากนักวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้า อย่างคุณ Hilary Staples ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลียนแบบ
ธรรมชาติ หรือ Biomimicry ที่พูดถึงความน่าสนใจของสิ่งที่มีมาดั้งเดิมของธรรมชาติ แม้ว่า
เทคโนโลยีจะพัฒนาไปเท่าไร แต่สิ่งมีชีวิตก็ยังคงมีกลไกที่น่าสนใจให้เราศึกษา การนำคุณสมบัติ
ของผิวปลาฉลามไปทำเป็นชุดว่ายน้ำของ Speedo เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่คุณ Hilary นำมาเสนอ

dsc00535

ถัดมาก็สร้างความทึ่งให้กับผมอีกล่ะครับ เพราะว่าผลงานของ Prof. Dr.Hans Hilgenkamp
ที่นำ “แผนที่ประเทศไทย” และ “ช้างไทย” ไปอยู่บนเส้นผม จากประโยชน์ของนาโนเทคโนโลยี
ในการบรรยายก็เป็นการพูดถึงนาโนเทคโนโลยี และการนำไปประยุกต์ใช้ครับ

dsc00540-1

จากเรื่องของนาโนเทคโนโลยี เราหนีไปอยู่บนอวกาศกันดีกว่าครับ คุณ Soichi Noguchi
เล่าถึงประสบการณ์ที่เป็นนักบินอวกาศขององค์การ JAXA ประเทศญี่ปุ่น กับการบินไปยัง
ISS (International Space Station) ในภารกิจ Soyuz TMA-17 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม
2552 ที่ผมทราบมาเพิ่มเติมก็คือ ในระหว่างที่ปฏิบัติภารกิจเค้ายัง Post รูปภาพมายัง Twitter
ด้วย ใครอยากจะ Follow เรื่องราวบินๆ ของชีวิตนักบินอวกาศคนนี้ ก็ไป Follow เค้าได้ครับ
ทาง Twitter ของ Soichi Noguchi

dsc00557

และ Last but not least ก็เป็นเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์ไทย ที่เฟรมเชื่อว่าหลายๆ
คนที่ติดตามวงการวิทยาศาสตร์ก็ต้องรู้จักกันดีครับ นั่นก็คือ ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ นักวิทยาศาสตร์
ดีเด่น และอดีตรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มาพูดในหัวข้อ “Science of the
young and by the young for everyone” ที่ผมไม่รู้ว่าจะแปลหัวข้อนี้ออกมาให้สละสลวย
ได้อย่างไร แต่สำคัญคือใจความที่ ดร.ยงยุทธ เชื่อมโยงการศึกษาทางวิทยาศาสตร์จากอดีตสู่
ปัจจุบัน ที่มีประโยคนึงที่ผมชื่นชอบ คือ “Science makes fairy tales come true” หรือว่า
วิทยาศาสตร์นั้นทำให้นิทานหลายๆเรื่องเป็นเรื่องจริง

dsc00571

ถ่ายภาพกับดร.ยงยุทธ ครับ
ถ่ายภาพกับดร.ยงยุทธ ครับ

ภายหลังจากเสร็จสิ้นการบรรยายแล้ว เราก็ทานข้าวกันครับ แต่นี่ก็ยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจของเฟรม
เลยครับ (เรียกว่ายังไม่เริ่มเลยก็ว่าได้) กับการหาเพื่อนชาวต่างชาติ ระหว่างทานข้าวก็เลยหันไปคุย
กับเพื่อนต่างชาติที่นั่งข้างๆด้วย เค้าชื่อ Michale ครับ นั่นคือจุดเริ่มต้นของการสนทนาของผม…

Michale เป็นชาว New Zealand ที่ผมเองก็สัมภาษณ์เค้าเล็กน้อยครับ ว่าเค้ามาได้ยังไง กิจกรรมนี้
เค้าเล่าให้ฟังว่าเค้าส่งใบสมัครเข้ามาแข่งขันกับเพื่อนๆในประเทศของเค้า ซึ่งก็จะมีคล้ายๆกับกระทรวง
วิทยาศาสตร์ฯ บ้านเราที่คอยพิจารณาคุณสมบัตินี่ล่ะครับ จนในที่สุดเค้าก็ได้มาโดยไม่ต้องเสียเงิน
สักกะบาทเดียว แน่นอนครับเฟรมคุงนับถือในความสามารถของเขามาก  ในช่วงบ่ายที่เค้าให้เรา
ไปเดินดูงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ เฟรมก็รวบรวมความกล้า ขอลองเป็นไกด์ อาสาพาเค้าไปเที่ยวงาน
ซึ่งเค้าก็ไม่มีทางเลือก เอ๊ยยย ไม่ใช่สิ !! เค้าก็ยินดีครับ ที่จะมาด้วย แต่เฟรมก็ไม่อยากให้ทริปนี้มีแค่
ผมกับ Michale ผมจึงไปลาก ชวน เกาหลีมาอีก 2 คนที่อยู่ในกลุ่ม คือ Mr.Park และ Mr.Jung
ขวัญใจสาวไทย พร้อมกับเพื่อนๆคนไทย ไปเที่ยวงานกันครับ…

ลงตัวแล้วคร้าบบ !! เดินหน้า...
ลงตัวแล้วคร้าบบ !! เดินหน้า...

dsc00596

หนัง 4D เกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็น Highlight ของงานครับ
หนัง 4D เกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็น Highlight ของงานครับ

เฟรมก็เดินไป แปลไป เล่าไป อยู่กับ Michale ครับ หลังจากที่เราหลงกลุ่มกับเพื่อนๆ
สุดท้าย มันก็ต้องมีประเมินผลงานกันบ้างครับ Michale ชมเฟรมว่าสำเนียงอังกฤษของเฟรม
ใช้ได้ เฟรมอึ้งครับ !! นั่นก็ทำให้ความกล้าของเฟรมมันผุดขึ้นมาแบบสุดๆ เฟรมดีใจมาก
แม้ว่าก่อนหน้านี้ ปัญหาของการกลัวที่จะพูดมันมีมาตั้งแต่ก่อนจะสมัครเข้าค่ายนี้…
และหลังจากนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เฟรมก็จะสู้ๆ… พูดไป ถูกบ้าง ผิดบ้าง ก็ธรรมดาล่ะครับ

dsc00633

ผลงาน Lego จากชมรมเลโก้แห่งประเทศไทย ที่ Michale ยืนนิ่งอยู่ที่นี่นานพอสมควรเลยล่ะครับ
ผลงาน Lego จากชมรมเลโก้แห่งประเทศไทย ที่ Michale ยืนนิ่งอยู่ที่นี่นานพอสมควรเลยล่ะครับ

หลังจากที่พวกเราเดินดูงานทั่วทั้ง Hall แล้ว ก็ถึงเวลาสำหรับ Dinner ครับ ซึ่งวันนี้เราได้ทาน
อาหารที่นี่ นับว่าพิเศษสุดๆเลยครับ (ปกติมาเที่ยว มาดูงานอย่างเดียว) เราขึ้นมา เฟรมก็ได้รู้จัก
เพื่อนใหม่ๆ เพิ่มขึ้น บนโต๊ะกินข้าวนั้น ไม่ว่าจะเป็น Park และ Jung จากเกาหลี ที่พูดถึงไปเมื่อ
สักครู่ Maria จากฟิลิปินส์ Tick และ Lee จากจีน Anh Tu จากเวียดนาม สุดๆไปเลยครับ

ก่อนทานข้าว ที่พวกเรามีโอกาสนั่งกันเป็นวงใหญ่ๆ พูดคุยกันครับ ที่กำลังยกมือไหว้นี้ ก็เป็นชาวเวียดนาม ที่ชื่อ Anh Tu คนนี้เก่งมากๆครับ ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟัง (ถ้าไม่ลืม)
ก่อนทานข้าว ที่พวกเรามีโอกาสนั่งกันเป็นวงใหญ่ๆ พูดคุยกันครับ ที่กำลังยกมือไหว้นี้ ก็เป็นชาวเวียดนาม ที่ชื่อ Anh Tu คนนี้เก่งมากๆครับ ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟัง (ถ้าไม่ลืม)
Dinner ที่ BITEC ครับ
Dinner ที่ BITEC ครับ

dsc00639

ก็เป็นภาพรวมของบรรยากาศวันนี้ล่ะครับ หลากวัฒนธรรม หลากเชื้อชาติ เฟรมก็ไม่รู้ว่า
เราจะอยู่ร่วมกันได้ยังไง ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้น ที่เฟรมเองก็ต้องขอใช้เวลาในค่าย
ได้ทำความรู้จัก แน่นอนครับว่า ประสบการณ์แบบนี้ขอเล่าให้เพื่อนๆได้ฟังกันเยอะหน่อย
หรือใครๆจะเรียกว่ามันเป็นการ “บ่น” ก็ได้

แล้วอย่าลืมติดตามตอนต่อไปครับ….

(ซึ่งเฟรมจะหาเวลามาอัพเดตให้เร็วที่สุด T^T)

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรื่องอื่นๆ