Homeเรียนต่อเกาหลีชีวิตในเกาหลีรีวิวขอเอกสาร Criminal record เพื่อยื่นวีซ่าที่เกาหลี (กรณีอยู่ต่างแดน)

รีวิวขอเอกสาร Criminal record เพื่อยื่นวีซ่าที่เกาหลี (กรณีอยู่ต่างแดน)

สืบเนื่องว่าปีนี้วางแผนจะยื่นขอวีซ่า F-5 หรือวีซ่าถาวรที่เกาหลีครับ หนึ่งในเอกสารที่จะต้องจัดเตรียมก็จะมี “ใบรับรองความประพฤติ” หรือ “해외 범죄경력증명서” ที่ออกจากประเทศภูมิลำเนา (บ้านเกิด) ของตัวเอง และต้องได้รับการรับรองเอกสารจากสถานทูตด้วย ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ฟังดูแล้วไม่น่าจะทำได้ง่ายๆ ในช่วงโควิดเลย วันนี้เลยขอรีวิวขั้นตอนที่ผมเลือกใช้มาเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องใช้เอกสารนี้ครับ

เอกสารนี้จริง ๆ ไม่ใช่แค่วีซ่า F-5 อย่างเดียวที่จำเป็นต้องใช้ เพราะตั้งแต่ต้นปี 2564 (2021) เป็นต้นมา ทราบมาว่าในการยื่นขอหรือต่อวีซ่า F-2 (long-term residency visa – 거주비자) ก็จำเป็นต้องใช้เอกสารชุดนี้ด้วยครับ สำหรับบางประเทศเขาสามารถขอออนไลน์ได้ แต่ของประเทศไทยนั้นจะมีไม่กี่วิธีที่สามารถดำเนินการได้

เอกสารรับรองความประพฤติ
ตัวอย่างหนังสือรับรองความประพฤติ Background Check (Criminal Records) Certificate ที่ออกโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประเทศไทย

คำถาม : สามารถขอใบรับรองความประพฤติจากสถานทูตไทยในเกาหลีได้ไหม?

คำตอบ : สถานทูตไทยในเกาหลีไม่มีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับการออกเอกสารชุดนี้ครับ

คำถาม : สมมติว่าได้เอกสารมาจากที่ไทยแล้ว ให้สถานทูตไทยในเกาหลีรับรองได้ไหม?

คำตอบ : ไม่ได้ครับ ตามหลักแล้วการนำเอกสารจากต่างประเทศมาใช้ในประเทศเกาหลี จะต้องผ่านการรับรองจากสถานทูตเกาหลีประจำประเทศนั้น ๆ ก่อน และเอกสารที่จะนำมารับรองที่สถานทูตเกาหลีฯ จะต้องได้รับการรับรองเอกสาร จากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ แปลว่า เอกสารที่นำมาใช้ที่ประเทศเกาหลีได้นั้นจะต้องได้รับการประทับตราจากกระทรวงการต่างประเทศไทย และสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย

สรุปวิธีการขอหนังสือรับรองความประพฤติจากที่เกาหลี

จากที่ศึกษาความเป็นไปได้มีอยู่ทั้งหมด 2 รูปแบบ

  1. ถูกสุด แต่ยุ่งยากหน่อย

เงื่อนไข : 1. ไม่รีบ (เพราะขั้นตอนการขอเอกสารค่อนข้างนาน) 2. มีคนดำเนินการเอกสารอยู่ในกรุงเทพฯ
เวลาที่คาดว่าจะต้องใช้ : 1 เดือนขึ้นไป

สำหรับคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ​ สามารถให้ญาติ, เพื่อน ไปดำเนินการเอกสารแทนได้ครับ เราจะต้องมอบฉันทะและส่งเอกสารที่ใช้ในการยื่นทั้งหมดกลับไปที่ไทย เพื่อไปดำเนินการขอเอกสารหนังสือรับรองความประพฤติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สามารถติดตามรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ : กองบัญชาการตำรวจสันติบาล จะมีรายละเอียดของเอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นทั้งหมด ค่าธรรมเนียมต่างๆ และมีรีวิวตาม Pantip ที่บอกขั้นตอนโดยละเอียดหน่อย เอกสารจะใช้ระยะเวลาประมาณไม่เกิน 30 วัน (กรณีที่ไม่มีคดีความใดๆ) ซึ่งเข้าใจว่าเขาจะนัดวันมารับ พอเห็นแบบนี้แล้ว ใครที่ภูมิลำเนาไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ ก็จะเป็นอุปสรรคอยู่พอสมควร บวกกับเอกสารบางอย่างที่ต้องเตรียมให้คนดำเนินการแทน เราจะต้องใช้เวลาเตรียมพอสมควร ยกตัวอย่างเช่น เอกสารลายนิ้วมือ ในเกาหลีจะต้องไปที่สำนักงานตำรวจใหญ่ เช่นที่ 강남경찰서 จะมีจุดทำอยู่ที่ชั้น 1 อาคาร 민원 (สำนักงานเล็กๆ ไม่รับทำ), เอกสารยืนยันการมีที่อยู่ เมื่อขอจาก 주민센터 ก็จำเป็นต้องไปยื่นที่ กระทรวงต่างประเทศเกาหลี (외교부 영사확인) และต่อด้วยสถานทูตไทยในเกาหลี ก่อนส่งกลับมาที่ไทย จึงยอมรับว่าขั้นตอนค่อนข้างเยอะ

พิมพ์ลายนิ้วมือ สถานีตำรวจ
ที่สถานีตำรวจจะอำนวยความสะดวกในการพิมพ์ลายนิ้วมือให้ โดยเราต้องเอาฟอร์มไป (โหลดได้จากเว็บไซต์กองบัญชาการตำรวจสันติบาล) เจ้าหน้าที่เขาจะงงๆ หน่อย เพราะฟอร์มแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน
หากมีเอกสารอะไรที่ออกจากเกาหลี และนำไปยื่นที่ไทย จำเป็นต้องได้รับการรับรองเอกสารจากกระทรวงการต่างประเทศ (เกาหลี) และรับรองต่อโดยสถานทูตไทยในเกาหลี

อย่าลืมว่าเมื่อได้เอกสารชุดนี้แล้วจะต้องนำไปรับรองเอกสารที่กระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทยอีก

ปล. แม้ว่าเราจะยื่นเรื่องขอเอกสารรับรองความประพฤติโดยตรงจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากต่างประเทศได้ แต่อย่าลืมว่าเมื่อเอกสารถูกส่งกลับมาต่างประเทศ เราก็ต้องส่งกลับไปประเทศไทย เพื่อรับรองเอกสารอีก จึงเป็นวิธีที่ไม่แนะนำเท่าไหร่

2. แพงสุด แต่ง่ายสุด

เงื่อนไข : 1.รีบ 2. ต้องการใช้เงินแก้ปัญหา
เวลาที่คาดว่าต้องใช้ : 15 วัน

ปัญหาแก้ได้ด้วยเงินจริง ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าแลกกับเงื่อนไขที่เราไม่สามารถดำเนินทางไปดำเนินเอกสารได้อย่างสะดวกในช่วงนี้มันก็อาจจะคุ้มค่ากว่า

สามารถเลือกหาเอเจนซี่ที่รับดำเนินเอกสารแทนได้เลยตั้งแต่การขอหนังสือรับรองความประพฤติ ไปจนถึงยื่นสถานทูตเกาหลี เบ็ดเสร็จอยู่ที่หลักหมื่นบาท (เท่าที่สำรวจราคามา) แต่เนื่องจากขั้นตอนที่ยากสุดที่ให้คนอื่นดำเนินการให้ เป็นขั้นตอนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เดียว รับรองเอกสารสามารถดำเนินการได้ภายในหนึ่งวัน เลยมองหาเอเจนซี่ให้ดูแลเฉพาะเอกสารชุดนี้ (เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย)

สุดท้ายผมเลือกวิธีที่สองครับ เพราะว่ามีเพื่อนอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็จริง แต่การดำเนินการเอกสารที่ใช้เวลานาน และเลือกต้องทำรายการเฉพาะวันทำการเท่านั้น ถือว่าไม่ได้หาได้ง่าย ๆ เลย

ขั้นตอนยื่นเอกสาร

ขอไม่บอกว่าดำเนินการกับที่ไหนนะครับ สามารถหาร้านรับเดินเอกสารชุดนี้ได้จากอินเตอร์เน็ต ราคาอยู่ที่ชุดละประมาณ 3,500 ~ 4,500 บาท ลองสอบถามเงื่อนไข ระยะเวลาที่สามารถรับเอกสารได้ ค่าจัดส่งในประเทศ ฯลฯ

จากนั้นเราก็จะต้องสแกนสำเนาเอกสารที่ต้องใช้ เช่น สำเนาหนังสือเดินทาง, สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, ผู้ชายก็จะมีเอกสารเกี่ยวกับทหาร (หนังสือ สด.8,9, 43 ใบรด. หรือหนังสือผ่อนผันทั้งหลาย), ใบจดทะเบียนสมรส​ (ถ้ามี), ใบการเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี) เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องพร้อมรูปถ่าย ส่งกลับไปให้เอเจนซี่ เพื่อให้ดำเนินการ จากนั้นให้เอเจนซี่รับหนังสือ และส่งหนังสือไปให้เพื่อน หรือผู้ดำเนินการรับรองเอกสารแทนเราที่ที่อยู่ในไทย

ส่วนผมจะต้องทำหน้าที่ส่งเอกสารสำเนาต่างๆ ที่ต้องใช้ในการยื่นเพื่อขอรับรองเอกสารที่ไทย, หนังสือมอบฉันทะ ไปให้เพื่อนที่อยู่ที่ไทย โดยรอบนี้ด้วยความรีบของผม ผมเลือกส่งผ่าน DHL เอกสารจะไปส่งถึงมือเพื่อนวันถัดไปเลย (เร็วมาก!!!) โดยมีค่าส่งเอกสารอยู่ที่ประมาณ 40,000 วอน (จริงๆ EMS ไปรษณีย์เกาหลีก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ถ้าไม่ต้องการรีบมาก ราคาน่าจะถูกลงมาครึ่งนึง แต่ไม่สามารถเลือกวันรับเอกสารได้)

เอกสารที่ทำผ่านเอเจนซี่ในเคสผม ค่อนข้างใช้เวลาเร็ว ไม่แน่ใจว่ามีบริการแบบด่วนหรือว่าช่วงนี้คนน้อยก็ไม่แน่ใจ เพราะใช้เวลาประมาณ​ 7 วันทำการ ทางเอเจนซี่สแกนเอกสารมาให้ดูอย่างดี เมื่อเอกสารถึงมือเพื่อน ก็จะเหลืออีกสองขั้นตอนก็คือ รับรองเอกสารที่กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทยครับ (เนื่องจากเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ จึงไม่ต้องนำไปแปลเอกสารต่อแต่อย่างใด)

การรับรองเอกสารที่กระทรวงการต่างประเทศ

บริการส่วนของรับรองเอกสาร จะดำเนินการที่ ‘สำนักงานสัญชาติและนิติกรณ์’ ครับ ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงการต่างประเทศอีกที เขามีสำนักงานใหญ่ที่แจ้งวัฒนะ และสาขาย่อยอยู่ที่ใต้ดิน (MRT) คลองเตย

การรับรองเอกสารสามารถดำเนินการที่กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด (มีเฉพาะบางจังหวัด) หรือผ่านบริการรับรองเอกสารผ่านไปรษณีย์ ได้ สามารถตรวจสอบสถานที่รับรองเอกสารทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ของ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (* แต่ท้ายที่สุดรับรองเอกสารที่สถานทูตเกาหลี ก็ทำให้ต้องมาทำเรื่องที่กรุงเทพฯอยู่ดี)

เนื่องจากเราต้องการจัดการเอกสาร ให้เสร็จภายใน 1 วัน เขาก็มีบริการรับรองเอกสารแบบด่วน โดยจะต้องนำเอกสารที่ต้องการให้รับรอง มายื่นที่เคาน์เตอร์ภายในช่วงเวลา 08.30 – 10.30 น. (เท่านั้น) และสามารถรับเอกสารได้ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป โดยมีค่าดำเนินการเอกสารแบบด่วน 400 บาท (ถ้าไม่ด่วน 200 บาท และจะได้รับเอกสาร 2 วันถัดไป)

เอกสารที่ต้องใช้ที่นี่ : 

  1. หนังสือมอบอำนาจ (ต้องมีพยานเซ็นชื่อ 2 คน, หากเอกสารเขียนที่ต่างประเทศ จะต้องให้สถานทูตไทยในประเทศนั้นๆ รับรอง)
  2. สำเนาบัตรประชาชนของเรา (+สำเนาถูกต้อง) 1 ชุด
  3. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ดำเนินการแทน (+สำเนาถูกต้อง) 1 ชุด
  4. ติดอากรแสตมป์ 10 บาท (หาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องเขียน หรือไม่ก็ไปหาซื้อแถวนั้นจะมีขายในราคา 20 บาท)

จากประสบการณ์ที่(ฝากเพื่อน)ไป ก็พบว่าไปยื่นเอกสารในช่วงเวลารับเรื่อง ได้เอกสารประมาณ​ 12.00 น. พร้อมนำไปดำเนินการต่อ

การรับรองเอกสารที่สถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย

สถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ 23 ถนนเทียมร่วมมิตร รัชดาภิเษก ห้วยขวาง ไปยังไง… ไม่รู้ เปิด Google Maps ไปแล้วกัน

ที่สำคัญก่อนไปสถานทูตประเทศไหนก็ตาม ควรแต่งกายสุภาพ เช็คปฏิทินวันหยุดของประเทศนั้น ๆ และไปให้ทันเวลา เวลาทำการของสถานทูตเกาหลีฯ จะอยู่ที่ 8:30~11:30 น. และ 13:30~15:30 น.

เมื่อเดินทางไปถึงก็บัตรคิวหมายเลข 3 รับรองเอกสาร 

เอกสารที่ต้องใช้ยื่นที่นี่ : 

  1. ใบสมัครยื่นขอรับรองเอกสาร (สามารถไปกรอกที่สถานทูตก็ได้) แต่ถ้าจะใจดีกรอกให้คนดำเนินเอกสาร ก็สามารถดาวน์โหลดได้จาก เว็บไซต์ของสถานทูต (ไฟล์แนบ 공증촉탁서) / ลิงก์สำรอง 2 แล้วกรอกข้อมูลไปให้เรียบร้อยก่อน
  2. ใบมอบฉันทะ (ภาษาไทย/ภาษาอังกฤษ, เตรียมไปเผื่อทั้งสองชุดเลย)
    3. สำเนาบัตรประชาชนของเรา (+สำเนาถูกต้อง) 1 ชุด
  3. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ดำเนินการแทน (+สำเนาถูกต้อง) 1 ชุด
  4. สำเนาหนังสือเดินทาง (+สำเนาถูกต้อง) 1 ชุด
  5. สำเนาเอกสารที่จะนำมารับรอง (ก่อนมาสถานทูตก็เอาหนังสือรับรองความประพฤติที่ได้ตราประทับจาก MRT คลองเตยมาถ่ายเอกสารก่อน แต่ที่สถานทูตเกาหลีฯ บริการถ่ายเอกสารไว้เหมือนกัน)

เท่าที่ทราบจากผู้ดำเนินการแทน ก็ใช้เวลาไม่ค่อยเยอะสำหรับที่นี่ ค่าดำเนินการเอกสาร 128 บาท และใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้น

จะพบว่าทั้งหมดนี้สิ่งที่ใช้เวลานานที่สุดดูจะเป็นตัวเอกสารที่เราต้องการนั่นก็คือ “หนังสือรับรองความประพฤติ” แต่ในส่วนของการรับรองเอกสารใช้เวลาไม่นานมากครับ

จากนั้นก็แค่ให้เพื่อนของเราส่งเอกสารกลับมาให้เราที่ต่างประเทศเป็นอันจบพิธี จะ EMS, DHL, FedEx อะไรก็ว่าไป…

สรุปค่าเสียหาย

  1. หนังสือรับรองความประพฤติ (3,500 ~ 4,500 บาท ผ่านเอเจนซี่)
    2. รับรองหนังสือที่ สำนักงานสัญชาติและนิติกรณ์ MRT คลองเตย (400 บาท + อากรแสตมป์ 10 บาท)
    3. รับรองหนังสือที่ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจําประเทศไทย (128 บาท)
  2. ค่าส่งเอกสารกลับไทย (DHL 40,000 วอน, ~ 1,100 บาท/เที่ยว)
  3. ค่าเหนื่อย-ค่าน้ำมันรถเพื่อน (แล้วแต่ตกลง)

หวังว่าบทความจากบล็อกประสบการณ์การขอเอกสารรับรองความประพฤติ (Criminal Record) นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่าที่เกาหลีใต้นะครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรื่องอื่นๆ