Homeรีวิวเกาหลีชีวิตประจำวันพบปะรุ่นพี่ทุนรัฐบาลเกาหลี ในงานแนะแนวทำงานต่อเกาหลี - จบแล้วไปไหน?

พบปะรุ่นพี่ทุนรัฐบาลเกาหลี ในงานแนะแนวทำงานต่อเกาหลี – จบแล้วไปไหน?

ผมมีโอกาสได้ไปพูดและร่วมรับฟังประสบการณ์ดีๆจากรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์จากหลากหลายสาขา มาร่วมแชร์กันในงาน “จบแล้วไปไหน?” ที่ได้รับความร่วมมือระหว่าง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล (Royal Thai Embassy, Seoul), Seoul Global Center และ ชุมชนนักเรียนไทยในเกาหลี

มีโอกาสได้พบปะกับนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาต่ออยู่ที่เกาหลี ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมปลาย จนถึงปริญญาเอก เข้ามารับฟังคำแนะนำและประสบการณ์การหางานทำที่เกาหลี

Seoul Global Center
สถานที่จัดงาน Seoul Global Center, Jongro-gu สถานี Jonggak (Exit.6) ห้อง 402

เริ่มต้นการบรรยายโดย Speaker ท่านแรกเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยครับ อาจารย์เกวลิน ศรีม่วง” อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยฮันกุ๊ก (Hankuk University of Foreign Studies : HUFS) ที่ได้มาบอกเล่าประสบการณ์กว่าจะได้มาเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยในเกาหลี

อ.เกวลิน ศรีเมือง

อาจารย์เกวลิน หรือ อ.เกรท ได้รับทุนรัฐบาลเกาหลี (KGSP) เมื่อปี 2001 ในระดับปริญญาโท ด้านการสอนภาษาเกาหลีที่มหาวิทยาลัย Kyunghee University หลังจากนั้นก็ได้มาสอนภาษาเกาหลีให้กับนักเรียนไทย ที่มหาวิทยาลัยในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 5 ปี จนสุดท้ายพบว่าการจะเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยนั้น แค่ระดับปริญญาโทรู้สึกว่าไม่เพียงพอ จึงได้ขอรับทุนเพื่อศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก ปัจจุบันอาจารย์สอนภาษาไทยให้กับชาวเกาหลี ที่มหาวิทยาลัยฮันกุ๊ก นอกจากงานด้านการสอนแล้วยังมีหน้าที่วิจัย ดูแลกิจกรรมนักศึกษา, บริการภายนอก (เป็นกรรมการ หรือที่ปรึกษาให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่ขอความอนุเคราะห์)

อ.เกวลิน ศรีเมือง นักเรียนทุนรัฐบาลเกาหลี ปี 2001

ชีวิตประวัติของอาจารย์ที่ว่าน่าสนใจแล้ว เส้นทางการทำงานในเกาหลีของอาจารย์ก็น่าสนใจอีกเช่นกัน อาจารย์เล่าให้ฟังว่า “ตอนเป็นเด็กๆ มีความผูกพันกับคุณครูเยอะ ได้โอกาสดีๆมา ถึงเวลาอยากมอบโอกาสดีให้กับคนอื่นๆ” จึงเลือกเดินทางในสายอาชีพครู-อาจารย์ เริ่มเรียนภาษาเกาหลี จนมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สถานทูตฯ ก่อนที่จะมีโอกาสได้ไปทำงานที่มหาวิทยาลัยฮันกุ๊ก มหาวิทยาลัยเฉพาะทางที่มีชื่อเสียงด้านภาษาและการทูต อาจารย์เสริมว่า การจะเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยนั้นจะต้องมีอย่างน้อย “ปริญญาเอก, ผลงานวิจัยระดับสูง (นานาชาติ) และที่สำคัญคือ มีจิตใจที่จะผลิตผลงานเพื่อแชร์ความรู้สู่สาธารณะ เพราะคนเกาหลี ถือว่าอาชีพครูและอาจารย์ คือ ‘บุคคลสาธารณะ’

อาจารย์เกรท ทำหน้าที่เป็นประตูบานแรกให้ชาวเกาหลีที่สนใจในภาษาไทย โดยได้สอนภาษาไทย ที่มหาวิทยาลัยฮันกุ๊กทั้ง 2 วิทยาเขต (โซลและยงอิน) โดยได้สอนทุกชั้นปีตั้งแต่การสนทนา การเขียน วัฒนธรรม การล่ามและการแปล ในส่วนระดับปริญญาโท จะมีการเรียนการสอนที่วิทยาเขตโซล โดยอาจารย์รับหน้าที่สอนวิชาการแปล

แขกรับเชิญท่านที่ 2 เป็นรุ่นพี่ที่ได้รับทุนรัฐบาลเกาหลี ปี 2014 “พี่จอย – ภาวินี โกยโภไคสวรรค์” เส้นทางตลอดชีวิตของการเรียนมาทางสายบริหาร (ฺBusiness and Administration) จบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัย Kainan University ประเทศไต้หวัน และมาศึกษาต่อระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา Ewha Womans University ในคณะเดียวกัน

Phavinee Koyphokaisawanพี่จอยมาเล่าประสบการณ์ของการทำงานในฐานะพนักงานใหม่ (신입사원) ที่บริษัท Lotte Rental โดยเป็นบริษัทที่ดูแลธุรกิจให้เช่าของลอตเต้ทั้งหมด

เนื่องจากลอตเต้เป็นบริษัทใหญ่ การสมัครจึงมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อน ใช้เวลาร่วมครึ่งปีเพื่อสมัครเข้าทำงาน ทันทีที่สมัครครั้งแรกก็ได้โอกาสเข้าไปร่วมสัมภาษณ์กับผู้บริหารชาวเกาหลี เพื่อวัดว่าจะมีความสามารถในการทำงานร่วมกับคนเกาหลี ต้องเผชิญกับคำถามสัมภาษณ์โหดๆ เช่น “ให้บอกเล่าชีวิตของตัวเองที่เกาหลี, พูดถึงความแตกต่างวัฒนธรรมระหว่างเกาหลีและไทย” ตอนสัมภาษณ์พบว่าตัวเองไม่ใช่คนที่เก่งภาษาเกาหลีที่สุด จึงพยายามแสดงความสามารถด้านอื่นๆ โดยเฉพาะด้านภาษา ใช้ภาษาอังกฤษ มาเป็นจุดเด่น สร้างความประทับใจให้กับกรรมการในรอบนั้น

ขั้นตอนการสมัครงานที่เกาหลี
ขั้นตอนการสมัครงานที่เกาหลี

ผ่านจากการสัมภาษณ์ มาเจอกับ PT ที่ให้นำเสนอไอเดียใหม่ๆให้กับบริษัท ตอนนั้นเป็นหัวข้อ “ทำยังไงให้คนต่างชาติเช่ารถ” พี่จอยบอกว่า “ความยากไม่ได้อยู่ที่ไอเดีย แต่เป็นการนำเสนอที่ต้องใช้ภาษาเกาหลี” ตอนนั้นเคล็ดลับอย่างเดียวของพี่จอยคือการพยายามท่องจำทุกอย่าง จนสามารถไปนำเสนอและสร้างความประทับใจให้กับกรรมการได้อีกครั้ง ก่อนที่สุดท้ายจะได้รับคัดเลือกเข้าทำงาน ก็ต้องไปทำกิจกรรมเข้าค่ายอบรมสุดโหดกับเพื่อนๆในบริษัท (Training) เป็นเวลา 2 อาทิตย์ ก่อนจะกลับมาอินเทิร์น พร้อมกับเตรียมทำวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโท และเข้าสู่การทำงานประจำ เคล็ดลับการหางานและรับมือกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด อยู่ที่ “การเตรียมความพร้อมให้กับโอกาสที่จะมาถึงอยู่ตลอดเวลา”

การทำงานกับคนเกาหลี มีความยากทั้งเรื่องของภาษา พี่จอยเล่าให้ฟังว่า เราไม่เข้าใจ เราก็พยายามอัดเสียง ไปนั่งฟังซ้ำๆว่าเขาพูดว่าอะไร พยายามหาโอกาสจากการร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆที่บริษัทในฮเวชิก (งานเลี้ยงบริษัท) เพื่อเรียนรู้ภาษาเกาหลี มองทุกอย่างให้เป็นโอกาส และแก้ปัญหา เพราะ “ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ใช่เอาไว้ให้ทุกข์” พี่จอยปิดท้ายไว้อย่างประทับใจ

ส่วนผม ได้โอกาสพูดเป็นลำดับที่ 3 ตอนเตรียมต้องการจะนำเสนอเรื่องราวและมุมมองใหม่ๆ เลยให้ชื่อหัวข้อว่า “ชีวิตการทำงานในเกาหลี ฉบับ คนเรียนไม่ตรงสาย” เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและเป็นข้อมูลสำหรับคนที่สนใจทำงานต่อในเกาหลีแม้ว่าอาจจะเรียนไม่ตรงกับแผนการเรียน

Rachata Soranakom guest speakerผมเองมีความตั้งใจอยากทำงานที่บริษัทในเกาหลี ตอนปี 3 มีโอกาสได้แข่งขันในโปรแกรมหนึ่งที่ชื่อ LG Global Challenger ซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีรางวัลน่าสนใจ ทีมที่ผ่านเข้ารอบมีสิทธิ์ได้ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ในเกาหลี เป็นระยะเวลา 11 วัน 10 คืน พร้อมกับพ็อคเก็ตมันนี่อีก 5 ล้านวอน อีกทั้งทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ยังจะได้รับ ถ้วยรางวัลจากประธานบริษัท LG, เงินสด 3 ล้านวอน, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และสิทธิ์ในการฝึกงานที่บริษัทใดก็ได้ในเครือ LG ไม่มีอะไรที่ทำให้ผมตาโตได้มากกว่ารางวัลสุดท้าย เพราะเหมือนเป็นทางลัดสู่การทำงานที่เกาหลีที่สามารถทำได้ ณ เวลานั้น

ผมจับกลุ่มกับเพื่อนต่างชาติอีก 3 คน สมัครเข้าแข่งขัน และใช้หัวข้อเรื่อง “ต๊อก (떡)” อาหารเกาหลีที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจ เป็นตัวนำพาให้ผมและเพื่อนๆ เข้าไปศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับต๊อก ทำไมต๊อกจึงไม่ได้รับความนิยมในคนเกาหลีในพักหลัง และไม่เป็นที่รู้จักมากในบรรดาคนต่างชาติ ผมใช้เวลา 1 เดือนเต็มๆ ในการเข้าไปสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับต๊อก ตั้งแต่ ร้านค้าจำหน่ายต๊อก อาจารย์มหาวิทยาลัย เยี่ยมชมหมู่บ้านต๊อก ทำความเข้าใจและเรียบเรียง เป็นรายงาน 50 หน้านำเสนอกับกรรมการ และสุดท้ายได้รับรางวัลในปี 2015

ผมใช้สิทธิ์ในการฝึกงานที่บริษัท HSAd ซึ่งเป็นบริษัท Media Agency ในเครือ LG เข้าไปทำงานด้านนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์เกี่ยวด้านมีเดียและการตลาด แม้ว่าจะไม่ตรงกับสิ่งที่ร่ำเรียนมา แต่ก็พบว่าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่มีเสน่ห์และน่าสนใจ ผมเคยเขียนรีวิวการฝึกงานที่บริษัทนี้ไว้ใน บล็อกตอนนี้ ครับ

HSAd เป็นเสมือนบันไดต่อยอดให้ได้มีโอกาสทำงานที่ บริษัท vonvon ซึ่งเป็นที่ทำงานปัจจุบัน นอกจากนี้ผมก็ยังได้พูดถึงรายละเอียดการขอวีซ่า E-7 (วีซ่าทำงานเฉพาะทางในเกาหลี) และเทคนิคในการขอวีซ่าตัวนี้สำหรับคนที่เรียนไม่ตรงสาย เนื่องจากวีซ่าตัวนี้มีเงื่อนไขในการสมัครว่างานที่ทำจะต้องสอดคล้องกับเนื้อหาที่เรียนหรือจบมาด้วย

และปิดท้ายด้วย “พี่เท้ง ชูพงษ์ อนันต์สิทธิโชค” ผู้นำเข้าอาหารและเครื่องดื่ม ผู้ก่อตั้งบริษัท 8am Company และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท 8pm Company ผู้นำเข้าเครื่องดื่มแอลกฮอล์ ที่มาบอกเล่าประสบการณ์ตรงในฐานะเจ้าของกิจการ ที่นำเข้าเครื่องดื่มเบียร์ไทย มาจำหน่ายในตลาดเกาหลีได้

Choopong Anansitthichok

พี่เท้ง จบด้านบริหารจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และไปศึกษาต่อที่ประเทศจีนที่ปักกิ่งและกวางเจาอยู่ 3 ปี ระหว่างนั้นก็ได้เห็นช่องทางการทำงานมากมาย ที่อะไรที่ว่าถูก อยู่ที่จีนสามารถหาได้ถูกกว่า มีรายได้จากการค้าขายสินค้าที่ประเทศจีน ก่อนที่จะกลับมาทำงานต่อที่ประเทศไทย

งานที่มีโอกาสทำในประเทศไทยคือ Sales Coordinator ให้กับบริษัทเบียร์แห่งหนึ่ง โดยได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และใช้เวลาศึกษาจนเริ่มเห็นศักยภาพในตัวเอง เริ่มมองหาช่องทางในการส่งออกสินค้า จนได้เป็น Assistant Regional Director ก่อนที่จะออกจากงานประจำที่ทำมาร่วมกว่า 3 ปี และเริ่มดำเนินธุรกิจเป็นของตัวเอง

“ถ้าทำงานคุณทำเต็ม 10 ผมทำ 11” นี่คือ แนวความคิดในการทำงานของพี่เท้ง เปรียบเทียบง่ายๆคือ คนที่ทำเต็ม 10 คือพนักงานทั่วไป ที่ทำงานไม่ผิดพลาด แต่พี่เลือกจะเต็มที่กับการทำงาน และทุ่มเทให้กับบริษัทมากกว่านั้น ทำให้ผลงานของพี่เท้งโดดเด่นตลอดช่วงที่ทำงานให้กับบริษัท

ช่วงที่ผ่านมามีโอกาสได้เห็นรูปแบบธุรกิจใหม่ๆมากมายที่เคยคิดไว้อยู่ในหัว แต่สุดท้ายธุรกิจเหล่านั้นก็กลับกลายเป็นของคนอื่นไป จนได้ข้อคิดว่า “เราคิดได้แต่ไม่ลงมือทำ สุดท้ายคนอื่นก็ทำ” เลยฝากให้ทุกคนในห้องประชุม นำสิ่งที่ตัวเองพบเห็น จากการเดินทางท่องเที่ยวก็ดี หรือใช้ชีวิตอยู่ในเกาหลีก็ดี สังเกตดูว่าอะไรที่เกาหลีมี แต่ที่ไทยไม่มี นั่นแหละอาจจะเป็นโอกาสสำหรับเรา

ปัจจุบันพี่เท้งได้ทำธุรกิจร่วมกับภรรยาคนเกาหลี และใช้ชีวิตอยู่ที่เกาหลีได้ 3 ปีแล้ว.. <3

ปล. Speaker ท่านสุดท้าย พี่เต้ย พาสิน ปลอดประดิษฐ์ ติดภารกิจด่วนไม่สามารถเข้าร่วมงานได้ครับ (หวังว่าโอกาสหน้าจะมีโอกาสได้ไปร่วมฟังเช่นกัน)

เป็นอีกหนึ่งงานที่เห็นความตั้งใจของชุมชนนักเรียนไทยในเกาหลี ที่ต้องการกระจายความรู้และมอบแนวทางกับนักเรียนไทยในเกาหลี ที่มองหาโอกาสในการทำงานต่อที่ประเทศเกาหลี ผมในฐานะที่เป็น speaker ก็รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาแบ่งปันแนวทางในการเตรียมตัวให้กับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆคนไทยในเกาหลี หวังว่าทุกคนจะมีโอกาสได้เจอกับเพื่อนร่วมงานที่ใช่และได้ทำงานที่ชอบครับ

ติดตามเรื่องเล่าของเด็กทุนรัฐบาลเกาหลีจากทั่วทั้งมุมโลกใน..
Follow the GKS Alumni story via..

ทุนรัฐบาลเกาหลี GKS Alumni

https://www.facebook.com/niiedgks
Instagram : gks_alumni

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรื่องอื่นๆ