พบกับตอนที่สอง ของการแบ็คแพ็คมาเที่ยวญี่ปุ่นกันนะครับ วันนี้เป็นวันที่ผมค่อนข้างตื่นเต้น เพราะผมกำลังจะได้ “กิน” ! ในสิ่งที่อยากลองมานานแสนนาน… คือการได้ไปทานเนื้อโกเบครับ ผมไม่รู้อะไรก่อนมาญี่ปุ่นเกี่ยวกับเมืองนี้ นอกจากเรื่องนี้จริงๆ (ไม่ต้องสงสัยกันเลยว่าผมเป็นคนยังไง 555) พร้อมแล้ว เราออกเดินทางไปพร้อมกันครับ !!
Day 3 : โกเบ (Kobe)
จากตอนที่แล้ว ผมได้บอกวิธีการเดินทางไปยังเมืองต่างๆ เริ่มต้นจากโอซาก้า (Osaka) ไว้โดยคร่าวครับ ซึ่งเมืองโกเบ (Kobe) ที่เราจะไปกันนี้ อยู่ห่างจากโอซาก้า แค่เพียง 27 นาทีเท่านั้นเอง
การเดินทางให้นั่งสาย Hankyu Line จากสถานีอุเมดะ (Umeda) ไปลงที่สถานีโกเบ-ซานโนมิย่า (Kobe-sannomiya) ครับ เช่นเดิม ให้สังเกตป้ายไฟบอกขบวนรถไฟทุกครั้งครับ ว่าขบวนไหนไปที่ไหน และประเภทของขบวนเป็นอย่างไร รอบนี้ต้องนั่งแบบ Limited Express ครับ ซึ่งมันจะข้ามบางสถานี หากนั่งแบบ Local จะใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ เนื่องจากจอดทุกสถานีนั่นเองครับ
ออกมาจากสถานีโกเบ-ซานโนมิย่า (Kobe-sannomiya) ก็จะเห็นร้านค้าเรียงรายกันไปแบบนี้ครับ อ้อ! ก่อนออกจากสถานี ผมแนะนำให้ไปที่ Tourist Information Center เพื่อขอแผนที่ ซึ่งจะอยู่ก่อนทางออกครับ
Steakland : ทานเนื้อโกเบ
จากโพยของผมเกี่ยวกับร้านสเต๊กเนื้อโกเบที่จะไปกินนั้น ผมจำหน้าตาร้านนั้นได้ดีครับ ร้านนั้นชื่อว่า “สเต๊กแลนด์” (Steakland) ซึ่งก็ได้คะแนนรีวิวดีมากจากบรรดานักท่องเที่ยว ที่ว่ากันว่าอร่อยสมราคา
ต้องบอกว่ารสชาตินี่สุดยอดสมคำร่ำลือครับ เนื้อจะไม่มัน ไม่แข็งจนเกินไป ดูจากรูปอาจจะดูแข็งๆ แต่จริงๆแล้วไม่เลย ทานกับข้าวร้อนๆแล้ว อร่อยฟินไปเลยครับ มื้อนี้เป็นเซ็ตมื้อกลางวัน ราคาจะถูกกว่ามื้อดึกหน่อย หากมีโอกาสแนะนำให้มาให้ทัน Lunch set นะครับ สนนราคามื้อนี้ อยู่ที่ ¥2,980 และนอกจากนี้ ร้านนี้ก็ยังมีเมนูเป็นสเต๊กแบบธรรมดา ที่ไม่ใช่เนื้อโกเบด้วย ราคาก็จะถูกลงมากว่านี้ครับ
หลังจากที่อิ่มแล้ว ผมนึกอะไม่ออกเกี่ยวกับเมืองนี้เลย ก็ได้แต่หาข้อมูลไปพลางๆครับ ก็พบว่าแถวนี้มีห้างใหญ่ๆอยู่ ก็เลยว่าจะลองไปเดินเล่นซะหน่อย กินเสร็จแล้วก็ไปวนเดินเล่นรอบสถานีเก็บบรรยากาศครับ
วัดอิคุตะ Ikuta (Ikuta Shrine)
ผมเดินวนกลับมาที่เดิม ก่อนที่ผมจะมาพบกับวัดอิคุตะ (Ikuta) ครับ วัดนี้อยู่หลังตึก Tokyu Hands ครับ
คิตะโนะ หมู่บ้านฝรั่งแห่งโกเบ Kitano-cho/ Kitano Ijinkan (Foreigners residents)
หลังจากนั้นผมก็ได้รับการติดต่อจากเพื่อนญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งอยู่โตเกียวครับ เพื่อนผมแอบเป็นห่วงการเดินทางครั้งแรกและคนเดียวของผม เธอถามผมเผื่อผมต้องการความช่วยเหลืออะไร ผมจึงให้เขาช่วยแนะนำร้านอร่อยๆในโกเบล่ะครับ ซึ่งเธอก็ได้แนะนำร้านคาเฟ่ในโกเบแล้วบอกให้ผมลองไปติดตามใน Instagram ของเธอ แต่ผมก็นึกขึ้นได้ครับว่า เธอเคยมาเที่ยวที่โกเบเมื่อเร็วๆนี้! ผมจึงไปเช็ค Instagram ก่อนที่จะไปพบรูปของเธอพร้อมกับแท็กสถานที่ที่น่าสนใจที่หนึ่ง ที่เธอแท็กไว้ตอนมาที่โกเบ ผมตามพิกัดมาเรื่อยๆ และหวังไว้แค่ว่าจะไปถ่ายรูปในมุมที่เดียวกับที่เพื่อนผมเคยมา (เซอร์ไพรส์นั่นเอง) ผมก็ให้ Google Maps ของผม นำทางไปครับ แม้ว่าระยะทางดูแล้วมันเหมือนจะไกลและวนไปวนมามาก
จนในที่สุด…. ผมก็เดินขึ้นมาในจุดที่แผนที่มันบอกครับ และสิ่งที่ผมตามหาในแผนที่เค้าเรียกแหล่งนี้ว่า “Kitano Ijinkan” หรือ Foreigners residents ซึ่งขอบอกว่า ภาพที่เห็นครั้งแรกของผม…มันเป็นอะไรที่ “โหวววว เฮ้ยยย สวยยยย ไม่คิดว่าเดินมาถึงนี่แล้วจะมาเจอ”
ความเหนื่อยล้าจากการที่ต้องปีนเขาชันๆขึ้นมาเรื่อยๆ และไม่รู้ว่าข้างหน้ามาเจออะไร นี่อึดอัดนะครับ แต่เดินมาเจอความน่ารักของหมู่บ้านนี้ สยบเข้าให้ เป็นคุณก็คงจะ“ตกหลุมรัก”เมืองนี้อย่างจังแน่นอน
เพราะภาพที่ผมเห็น เป็นลานกว้างๆ ล้อมไปด้วยอาคารเล็กๆ น่ารักๆ เต็มไปหมดเลยครับ อาคารเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นบ้านพักของชาวต่างชาติที่มาค้าขายในเมืองโกเบ (Kobe)
ตอนที่ขึ้นมาถึงบริเวณตรงนี้ เดินตามแผนที่มาอย่างเดียวครับ ไม่ได้เดินตามมาในเส้นทางที่เค้าแนะนำให้เดินขึ้นมา ขากลับพอลงไปตามเส้นทางที่เค้าแนะนำ ก็ได้เห็นร้านค้าต่างๆ ที่ขายของที่ระลึก ร้านขายขนมน่ากินๆ ที่เป็นของฝากของเมืองโกเบ (Kobe) นี้ครับ ไม่ว่าจะเป็น ขนมชีสเค้ก พุดดิ้ง ไอศกรีม ทาร์ต ก็มีให้เลือกซื้อหลากหลายครับ (แม้ว่าจะมาพบทีหลังว่าที่สนามบินมีขายหมดเลย แต่ผมไม่รู้นะ มีความรู้สึกว่า มาถึงที่นี่แล้วก็ต้องขอซื้ออะไรติดเป็นที่ระลึกไปหน่อยล่ะ แต่ก็มีบางยี่ห้อเท่านั้นครับ ที่ต้องซื้อที่นี่ ไม่มีขายที่สนามบิน)
เมื่อได้ของฝากไปบ้างแล้ว ก็ถึงเวลาเตรียมเดิมทางกลับไปที่สถานีโกเบ-ซานโนมิยะ (Kobe-sannomiya) เพื่อกลับไปที่โอซาก้า (Osaka) ต่อไปครับ
โกเบสำหรับผม จึงเป็นเมืองอีกเมืองที่น่ารักมากๆครับ ดูอบอุ่น เป็นเมืองที่ผมคิดอยากจะกลับมาเที่ยวอีกครั้งด้วยครับ เอาเป็นว่าสำหรับการเดินทางที่โกเบก็จบเพียงเท่านี้ ก่อนที่ผมจะมุ่งหน้ากลับไปที่โอซาก้าต่อไปครับ
Kijyoyu Udon ร้าน Hagakure : อุด้งมื้อนี้ที่ผมจะไม่มีวันลืม…
ทันทีที่ผมถึงโอซาก้า (Osaka) ผมก็ได้รับการติดต่อจากเพื่อนที่อยู่ที่โตเกียว (คนเดิม) กลับมาอีกครั้งครับ เพื่อนผมถามว่า “มาโอซาก้าแล้ว ได้ลองกินอุด้งของที่โอซาก้าหรือยัง?” เค้าบอกว่ามันอร่อยมากๆ ผมจึงขอให้เค้าแนะนำร้านให้ครับ อยากจะรู้เหมือนกันว่า “ร้านที่คนญี่ปุ่นเองว่าอร่อยเนี่ย เป็นแบบไหน” เพื่อนจึงส่งร้านมาให้สองร้าน พร้อมพิกัดครับ ผมเองก็จึงตัดสินใจ ตัวร้านอยู่ห่างไม่ไกลจากสถานีอุเมดะ (Umeda) ที่ผมอยู่ตอนนั้น ผมจึงตัดสินใจตามพิกัดไป ก่อนที่ผมจะคุยกับเพื่อนไปเล่นๆ เรื่อยเปื่อย
จนกระทั่งเพื่อนผมทักมาว่า “นี่อยู่ไหนแล้ว เราลืมบอกไปว่าร้านนั้นปิดรับออเดอร์ทุ่มสี่สิบห้านะ !” ผมเองดูนาฬิกาก็ตกใจเพราะตอนนั้นมันทุ่มครึ่งแล้วครับ แต่ใน Google Maps มันบอกผมว่าอยู่ใกล้มากๆแล้ว ร้านนี้จริงๆอยู่ในห้างที่ชื่อว่า Osaka Ekimae Dai-San building หรืออีกชื่อ คือ Osaka station 3 building ครับ ผมเองถึงหน้าห้างแล้วล่ะครับ แต่ตอนนั้นมันลนไปหมดจริงๆ กลัวไม่ได้กิน ผมรอไม่ไหวจึงขอให้เค้าช่วยส่งชื่อร้านมาให้ใหม่เป็นภาษาญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษ แล้วเดี๋ยวผมจะเดินวิ่งไปหาร้าน เทียบกับป้ายเอา (แน่นอนครับผมอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก ก็ได้แต่อาศัยอ่านไปเทียบไป)
จนผมไปเจออยู่ร้านนึงที่เหมือนจะใช่ ผมเจอลุงคนนึงอยู่หน้าร้านพอดี ผมจึงถามลุงว่า “ใช่ร้านนี้มั้ย” (เป็นภาษามือ 555) ก่อนที่จะหยิบไอโฟนให้ลุงแกดู ลุงแกพยักหน้า ก่อนที่จะถามผมว่า “Thailand? Thailand?” ผมก็ตกใจสิครับ แหม… รู้ได้ยังไง ว่าผมเป็นคนไทย สงสัยว่าคนไทยจะมากินร้านนี้เยอะจริงๆ ผมจึงตามลุงแกเข้าไปนั่งในร้าน ก่อนที่ลุงแกจะบริการผมอย่างดี บอกให้ผมวางกระเป๋าสัมภาระ
ก่อนที่สักครู่นึง ลุงคนนี้จะเอาเมนูมาให้ผม แล้วพูดกับผมเป็นภาษาญี่ปุ่นอะไรสักอย่าง แล้วเค้าก็ปิดเมนู ราวกับเหมือนผมได้สั่งไปแล้ว … ผมเองก็เริ่มผิดสังเกต จึงได้หยิบมือถือไปทักเพื่อนอีกครั้ง ก่อนที่จะถามไปว่า “นี่…อย่าบอกนะว่า โทรมาเหรอ?” เค้าตอบผมว่า “ทำไมเหรอ…โทรไม่ได้เหรอ ก็เรากลัวแกไม่ได้กินนะะ…” ผมได้แต่ยิ้มแล้วก็สตั๊นไปอยู่แปปนึงเลยครับ มันเป็นความรู้สึกตื้นตันจนบอกไม่ถูก ที่เพื่อนจะโทรมาดักให้เราก่อน ก่อนที่ผมจะย้อนไปอ่านข้อความเธอที่ผมไม่ได้อ่าน ที่ส่งมาระหว่างผมวิ่งหาร้านนี้อยู่ เธอพิมพ์บอกผมว่า “ไม่ต้องรีบนะ เราโทรไปหาที่ร้านแล้ว เค้าก็บอกว่าเค้าจะช่วยตามหาเธอให้นะไม่ต้องห่วง” ความกังวลของทั้งผมและเพื่อนก็จบลงเพียงเท่านี้ครับ มันจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งมาก และลุงก็มาพร้อมกับอุด้งที่สั่งเอาไว้ครับ….
รสชาติของอุด้งนี้ ต้องบอกว่าอร่อยมากๆครับ เป็นอุด้งที่นำหัวไชเท้าบดละเอียดมาผสมกับซอสญี่ปุ่น ก่อนที่เค้าจะมาผสมกันและบีบด้วยมะนาว หอม ออกเปรี้ยว เมื่อทานแล้ว ต้องขอบอกว่าได้ทั้งรสชาติกลมกล่อมของซอสญี่ปุ่น กลิ่นหอมของมะนาว และเส้นที่เหนียวนุ่มของอุด้ง อยากจะบอกว่า มันอร่อยลงตัวมากเลยครับ!
ลุงแกก็ทั้งใจดีกับผม อุตส่าห์พยายามช่วยหาผมและยังเปิดรับออเดอร์ แถมตอนนั้นก็ยังแนะนำให้ลูกค้าของลุงแกในร้าน รู้จักกับผมด้วย ว่าเป็นคนไทย ผมประทับใจลุงมากๆ จึงพยายามหาแบงค์เงินไทยให้ร้านลุงไว้เป็นที่ระลึก ผมมีแบงค์ 50 ใหม่ สวยๆ มีพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงของเราอยู่ด้วย ผมจึงให้ลุงไว้ พร้อมกับบอกกับลุงว่าเป็น Omiyage หรือของที่ระลึกนะ ลุงแกก็ดีใจ และรับเอาไว้ ก่อนที่จะพูดบอกลูกค้าทั้งร้านเลย ผมไม่แน่ใจว่าลุงแกพูดว่าอะไรเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ลูกค้าที่ร้านมองมาทางผมด้วยสายตาที่เป็นมิตรมากๆ ผมเองก็หวังว่า ทุกคนจะรู้จักประเทศไทยของเรา และหาโอกาสไปเที่ยวประเทศไทยเช่นเดียวกันครับ 🙂 ใครมีโอกาสได้มาเที่ยวที่โอซาก้า และอยากลองทานอุด้งอร่อยๆ ก็ขอแนะนำร้านอุด้งในโอซาก้า ร้านนี้ครับ ไปตามรอยกันได้…
สำหรับหน้าตาของลุงนั้น ให้ไปอ่านในบล็อกของคุณ Eatitjoe ที่มาเขียนรีวิวเกี่ยวกับร้านนี้ไว้อย่างละเอียดครับ 😀
ส่วนนี่คือ เว็บไซต์ของร้านลุงที่ลุงแกให้นามบัตรกับผมไว้ > Hagakure.cc
สรุปการเดินทาง
ก่อนที่ผมจะเดินทางกลับไปที่พัก พร้อมกับรอยยิ้ม ความประทับใจที่ได้เจอเรื่องราวที่ดีตลอดวันนี้ครับ ผมเองรู้สึกดีในความหวังดีของคนญี่ปุ่น ความที่มีใจที่บริการของลุง และความหวังดีของเพื่อนของผมเอง ที่แม้ว่าตัวจะอยู่ไกลไม่ได้มาด้วย แน่นอนครับ ผมเองก็หวังว่าจะได้ต้อนรับเพื่อนคนนี้ทันทีที่เค้ามีโอกาสมาเที่ยวที่ประเทศไทยเช่นกัน เนื้อโกเบว่าอร่อยแล้ว มาเจออุด้งที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ความใจดีของคนญี่ปุ่นแล้ว อุด้งในมื้อวันนี้อร่อยกว่ามากๆเลยครับ ^^
วันที่สามของการเดินทางของผมที่เมืองโกเบ (Kobe) และกลับมายังเมืองโอซาก้า (Osaka) จึงต้องขอจบเอาไว้เท่านี้ก่อน พบกันในตอนหน้าที่เมืองเกียวโต (Kyoto) เราจะพาทุกท่านไปชมความสวยงามของวัดญี่ปุ่น และเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลของเมืองนี้กันครับ
โปรดติดตามตอนต่อไป ~
To be continued…
หรือจะให้คนญี่ปุ่นพาเที่ยว Kobe ?
ไปอ่านกันต่อกันได้ ! กับโกเบในเวอร์ชันให้คนญี่ปุ่นพาเที่ยว ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวของผมในหน้าร้อนที่ผ่านมากับทริปในโกเบ ซึ่งมีทั้งอ่าวโกเบ (Kobe Haborland), Chinatown แห่งโกเบ และเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ [คลิกที่นี่]
— สารบัญทริปลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่น —
- [วันที่ 1 & 2] วอร์มอัพก่อนเที่ยวญี่ปุ่น ค่าใช้จ่ายเที่ยวญี่ปุ่น จองที่พักในญี่ปุ่น ที่พักราคาถูกใน
Osaka สายการบิน Peach อินเทอร์เน็ตในประเทศญี่ปุ่น ตะลุยเมือง Osaka, Dotonburi,
Shin Saibashi, Americamura วัด Hozen-ji, ปราสาทโอซาก้า, ร้านข้าวหน้าเนื้อ Yoshinoya,
ร้านซูชิสายพานในโอซาก้า- [วันที่ 3] ตะลุยเที่ยวเมืองโกเบ การเดินทางไปยังโกเบ กินเนื้อโกเบที่ร้าน Steakland, วัด Ikuta
ดูหมู่บ้านชาวต่างชาติ Kitano-cho (Foreigners Residents), พุดดิ้งโกเบ, ทาร์ตไข่โกเบ,
ของฝากจากโกเบ, กินอุด้งต้นตำรับโอซาก้า Kijyoyu Udon ร้าน Hagakure- [วันที่ 4] เที่ยวเมืองเกียวโต พาไปชมวัดในเกียวโต การนั่งรถบัสในเมืองเกียวโต, วัดทอง Kinkakuji
ถนน Shijo, วัดน้ำใส Kiyomizu-dera ลองกินไอติมชาเขียว Häagen-Dazs, วัด Yasaka ทางเข้าวัด
Kiyomizu, ชุดกิโมโนในเกียวโต, ของฝากเมืองเกียวโต, ขนม Yasuhashi, เกียวโตเทาเวอร์,
ห้าง Kyoto-Yodobashi- [วันที่ 5 ] เที่ยวเมืองนารา, การนั่งรถไฟไปเมืองนารา, ดูกวางเมืองนารา, three-story pagoda,
สวนสาธารณะนารา, วัด Todaiji, โอโคโนมิยากิร้านดังในโอซาก้า Chibo Okonomiyaki,
Tsutenkaku (Tsutenkaku Tower)