และแล้ว วันนี้ก็คือวันสุดท้ายที่เราจะเตรียมตัวเก็บกระเป๋า และออกเดินทางจากมหาวิทยาลัย Hanyang แล้วครับ กำหนดการในส่วนของค่ายจบลงเพียงเท่านี้ แต่ว่าในกำหนดการของเราที่มากับโรงเรียนอื่นๆ ด้วยกัน จึงมีโปรแกรมท่องเที่ยวที่เกาหลีนี้ต่อด้วยครับ
ในที่ประชุมวันนี้ก็มีการประกาศผลรางวัล ถ่ายรูปที่ระลึก และมีการแสดงหุ่นยนต์
หลังจากนี้ เราก็เดินทางต่อด้วยรถบัสครับ โดยมีไกด์อย่าง คุณกาญจนา อย่างที่ผมกล่าวไปในตอนต้นครับ คอยแนะนำเส้นทาง แนะนำทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับเกาหลี
สถานที่ที่เราจะไปต่อจากนี้ เราจะไปดูวัฒนธรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของคนเกาหลีในสมัยก่อนครับ ที่นี่เป็นหมู่บ้าน เรามุ่งหน้ากันไปที่ Korean Folk Village ครับ ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ Yongin ซึ่งอยู่ห่างจาก Seoul ประมาณ 40 กิโลเมตร ครับ
เข้ามาข้างในก็จะพบว่า มันกว้างมากๆครับ แต่เวลาอันน้อยนิดที่ผมจะได้เดินอยู่ในนี้ ทำให้ผมได้เห็นเพียงบางจุดเท่านั้นครับ จริงๆแล้วที่นี่จะมี workshop ให้ทำเยอะแยะเลยครับ มีลึกเข้าไปอีก ใครที่จะมาเที่ยว หาเวลามาเยอะๆนะครับ จะรู้ว่าคนสมัยก่อนเขาเจ๋งจริงๆ
ถัดมาไปดูการแสดงกันครับ ที่ผมเห็นก็จะมีการแสดงที่เหมือนกับการแสดงวันสุดท้ายของค่ายที่ทีมประเทศเกาหลีมาแสดงครับ อีกโซนนึงก็จะเล่นกับพวกม้า ซึ่งน่าจะเป็นสัตว์พาหนะ ของคนในสมัยก่อน ครับ
เดินมากันเรื่อยๆ จะมีจุดหนึ่งที่ต้องข้ามสะพานไปครับ แต่ก่อนผมเชื่อว่า มันต้องมีน้ำพัดผ่านไหลเชี่ยว แต่ตอนนี้กลายแข็งกลายเป็นหิมะไปหมดแล้วครับ
แน่นอนครับว่าเมื่อมีหิมะ ก็ต้องมีอะไรให้น่าเล่นแบบนี้ …
เดี๋ยวผมจะมาอัพรูปภาพที่เหลือไว้ในช่วงท้ายแล้วกันครับ (ตอนนี้ Gallery ของผมมันเดี้ยงไปซะก่อน)
ตอนนี้ก็หมดเวลาของผมแล้วครับ ต้องเดินกลับไป แต่ระหว่างทางที่ข้ามสะพานนี้ หิมะนี่ขาวสวยมากๆครับ
เที่ยวกันเหนื่อยแล้ว มาหาอะไรอร่อยๆกินกันดีกว่าครับ สถานที่ต่อมาที่เราจะมุ่งหน้าไปเป็นร้านอาหาร ผมไม่แน่ใจชื่อร้านนะ แต่ที่นี่ก็เป็นแบบกินได้เรื่อยๆครับ ก็มีเตาเป็นแบบเตาแก๊สมีน้ำราดพอขลุกขลิก ทานควบคู่กับพวกกิมจิ แล้วก็พวกพืชชนิดหนึ่งคล้ายๆสาหร่ายครับ
ระหว่างนี้ คุณกาญจนา ก็เริ่มไปหาพวกของฝากที่เป็นของที่ระลึกจากร้านค้าข้างนอกมาประชาสัมพันธ์ให้ดูครับ ลักษณะเป็นยังไง ราคาเท่าไร ซื้อมากลดได้เท่าไร ทำนองนี้ครับ ก็เป็นจุดแรก ให้ผมได้เริ่มซื้อของฝาก ใช้แบงค์หมื่นซะที
ลักษณะของฝาก ก็จะเป็นเหมือนของที่ระลึกครับ เช่นพวงกุญแจ พวกที่คั่นหนังสือ ช้อน ตะเกียบชุดกาแฟ หน้ากาก ตุ๊กตา และอีกเยอะแยะครับ นี่คือตามร้านค้าที่อยู่หน้าร้านอาหาร เหมือนเป็นรถขายสินค้าครับ
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางไปเป็นพระเอกหนังกันอีกแล้วครับ (ขอยืมมุกคุณกาญจนามาใช้) ชื่อว่า “วอนบิน” ไปจับจ่ายกันให้เงินวอน บินว่อนไปเลย ครับ (เก็ตมุกยัง ?!?)
เราไปกันที่ I’ PARK ครับ เผินๆก็คือห้างสรรพสินค้าครับ มีชั้นล่างที่เป็นเหมือนกับซุปเปอร์มาเก็ต หาสินค้าราคาไม่แพงได้ พวกของกินสาหร่าย ของฝาก เสื้อผ้า น่าจะซื้อที่นี่ได้ในราคาไม่แพง ผมเข้าไปแล้วก็ออกมาครับ
ผมอยากไปดูสินค้า IT ว่าที่นั่นเขาขายกันยังไง ราคาเท่าไร ก็เลยเดินมาอีกฝั่งครับ
ผลปรากฏว่าน้องๆ เขาได้ถอยเครื่องเล่นเพลงใหม่กันทั้งนั้นเลย น้องโอ๊ตที่พูดถึงเมื่อวานนี้ได้ iPod Shuffle 1 GB มา ราคา ₩ 53,000 (ประมาณ 1,330 บาท ที่นี่ขาย 2,290 บาท)คนขายเป็นคนจีนครับ เราก็เพิ่งมาทราบทีหลัง หลังจากตอนที่เขาเล่าให้ฟังว่า เขามาขายของที่นี่ เลยพูดได้หลายภาษา หนึ่งในนั้นก็คือ ภาษาจีน แล้วรุ่นน้องผมมีคนนึงที่พูดจีนได้คล่อปรื๋อเลยครับ (โง่พูดภาษาอังกฤษ เจรจากับมันตั้งนาน T-T)
ทุกคนได้ของติดไม้ติดมือกันหมดครัับ เหลือแต่ผมนี่ล่ะ ยังไม่อยากแบกอะไรไปมากกว่านี้จากนั้นผมก็เริ่มเดินทางกลับสถานที่พักครับ ซึ่งครั้งนี้เรามาพักกันเองที่ International Seoul Youth Hostel ซึ่งอยู่ใน Seoul ครับ
ข้อดีของสถานที่นี้ คือ อยู่ใกล้กับ เมียงดง (Myongdong) ซึ่งเป็นเหมือนกับตลาดกลางคืนครับ เดินไปใช้เวลาประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นก็ไม่รอช้าครับ ผมและอาจารย์ ขอไปสัมผัสบรรยากาศไนท์พลาซ่า บ้านเขาหน่อยล่ะ
สิ่งของที่มีขายที่นี่ นอกจากจะมีพวกสินค้าแบรนด์ ที่มีเป็นร้านๆ อย่างเช่น E’ Tude ,Skin Food แล้ว ก็ยังมีพวกเสื้อผ้า อาหาร เครื่องใช้ต่างๆ เยอะแยะมากครับ เดินสนุกล่ะคุณกาญจนา ก็เล่าให้ฟังว่าที่เมียงดง มีร้านขายโดนัทที่มีชื่อเสียงที่นึงชื่อ Krispy Kreme ซึ่งที่เมียงดง เป็นสถานที่แรกในเกาหลีใต้ ที่ได้มาวางจำหน่าย
เป็นโดนัทที่ใช้เครื่องจักรทำครับ เข้าไปในร้านนี่ เห็นเป็นเครื่องจักรกำลังนำแป้งมาแล้วนำมาผ่านน้ำมัน ลอยไปเรื่อยๆ เคลือบน้ำตาล ผมเองก็ลองซื้อมาชิมครับ กล่องใหญ่มี 12 ชิ้น ครับ ราคา ₩ 10,000 ลองชิมดูก็ เนื้อนิ่มมากครับ หวาน ถูกใจ เลยซื้อกลับไปฝากที่บ้านอีกกล่องนึงครับ (ถ้าซื้อแบบแยกชิ้นก็มีนะครับ ราคา ₩ 1,100)
ที่นี่จะค่อยๆเก็บของกันประมาณ 4 ทุ่มครับ ผมเองก็ได้ Krispy Kreme มาฝากที่บ้านล่ะคุณกาญจนาก็แนะนำว่า ถ้าจะซื้อกลับไปก็หิ้วขึ้นเครื่องบินได้เลยไม่มีปัญหาครับ ส่วนถ้าอยากจะกินที่บ้านก็อุ่นใช้เวลา 8 วินาที (ตามโฆษณา) หรือไม่ก็ทานเย็นๆก็ได้ครับ (ก็อร่อยไม่แพ้กัน)
กลับสู่ที่พักด้วยความเหน็ดเหนื่อย ตลอดทั้งวันครับ คิดทบทวนดูแล้วก็อยากอยู่ต่อไปอีกนานๆคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วครับ ที่จะได้นอนที่นี่ สำหรับพรุ่งนี้ก็เที่ยวบิน KE651 สายการบิน Korean Air เวลา Boarding 17.05 น. ครับ
อย่าลืมติดตามตอนที่ 5 จะอวสานแล้วครับและพลาดไม่ได้ตอนหน้า มีของฝากถึงคุณผู้อ่านแน่นอนครับ จะเป็นอะไร
ติดตามกันดูนะครับ ^^
ดูทุกตอนของ Asia-Pacific Robofest Camp 2009
- ตอนที่ 1 – เดินทางถึงสนามบิน , สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ (Everland Resort) ,
เข้ามหาวิทยาลัย Hanyang , รับหุ่นยนต์ i-Robo , ประกอบหุ่นยนต์ - ตอนที่ 2 – แข่งขันหุ่นยนต์เก็บของ , หุ่นยนต์ซูโม่
- ตอนที่ 3 – พิธีเปิด Asia-Pacific Robofest 2009 , การแข่งขันหุ่นยนต์ต่อสู่้ , การแข่งขัน
หุ่นยนต์ความคิดสร้างสรรค์ , เล่นกับหิมะ , พิธีอำลาชาวค่าย - ตอนที่ 4 – พิธีมอบรางวัล , เที่ยวหมู่บ้านเก่าคนเกาหลี Korean Folk Village ,
ทานเนื้อย่าง เที่ยวที่ I’ Park , เดินทางพักที่ค่ายยุวชน International Seoul Youth Hostel
เที่ยวกลางคืนที่ เมียงดง - ตอนที่ 5 – เที่ยวพระราชวังเคียงบ๊อก Gyeongbokgung Palace , พิพิธภัณฑ์คนเกาหลี
The National Korean Folk Museum of Korea , ซื้อของที่ระลึกที่ Insadong , Lotte Mart
เดินทางกลับประเทศไทย