หลังจากตอนที่แล้ว ผมกำลังประกอบหุ่นยนต์เพื่อแข่งขันในประเภทใหม่ครับ รอบนี้ดูแล้วน่าสนุกครับ เพราะต้องอาศัยทั้งความคิด การออกแบบ จริงๆ เนื่องจากว่า ในกติกานั้น คือการสร้างหุ่นยนต์ ที่สามารถไปล้มธงของฝ่ายตรงข้ามให้ได้ ซึ่งธงจะมีทั้งหมด 2 แบบครับ คือ ธงที่อยู่บนพื้นกับธงที่อยู่บนฐาน ธงที่อยู่บนฐาน มันก็จะสูงขึ้นมาหน่อยครับ ต้องหาออกแบบให้มันไปผลักล้มหรือว่าไปเขี่ยมันตก จะยังไงก็ได้ครับ สังเกตได้จากรูปครับ

กำหนดการสำหรับวันนี้ จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ของกิจกรรม Asia-Pacific Robofest 2009 ซึ่งจะมีขึ้นในห้องประชุมครับ โดยมีอาจารย์ที่เกี่ยวข้องคณะต่างๆ ตัวแทนจากแต่ละประเทศ ขึ้นมามอบของที่ระลึกในกิจกรรมครั้งนี้ด้วยครับ
ที่ห้องประชุมนี้ขอบอกว่า บรรยากาศน่านอนสุดๆครับ เมื่อคืนเรานอนกันดึกพอสมควรเนื่องจากซักซ้อมการนำเสนอในวันนี้ที่จะมีการแข่งขันหุ่นยนต์ความคิดสร้างสรรค์ และพวกเราก็นั่งประกอบหุ่นยนต์กัน กว่าจะได้เป็นที่น่าพอใจผมก็ไปแอบหลับในห้องประชุมนั่นแหละครับเพราะที่นั่นฟังไม่ออกจริงๆ เขาใช้แต่ภาษาเกาหลีครับ
หลังจากนั้นเราก็ไปรับประทานอาหารกลางวันครับ

กลับมาต่อที่การแข่งขันครับ บรรยากาศตอนนี้คนก็ทยอยเข้ามาแข่งขันเรื่อยๆ เพราะมีหลายกิจกรรมที่ผมเองไม่ได้เข้าร่วมครับ พวกหุ่นยนต์อัตโนมัติก็มีครับ เขียนโปรแกรมแล้วให้มันเดินทางเอง หรือไม่ก็พวกหุ่นยนต์เก็บของที่เขาใช้แข่งกันแบบนานาชาติ อะไรพวกนั้นก็มีเช่นกันครับ (เห็นเด็กประมาณ ป.5-6 นี่ล่ะมั้ง เขียนโค้ด ตัวนิดเดียวเอง เดี๋ยวจะเอาวิดิโอมานำเสนอครับ)

ส่วนผมก็ปลีกตัวมาทางหุ่นยนต์พังธงอย่างเดียวครับ (ต่อไปนี้จะขอเรียกว่า หุ่นยนต์ต่อสู้ แล้วกัน) ครั้งแรกที่ผมทำไป หุ่นยนต์ค่อนข้างใหญ่มากครับ ประมาณว่ามัน 25 ซม. เป๊ะๆ แต่อาจารย์เขาแนะนำผมอยากให้ปรับใหม่ เพื่อไม่ให้เสี่ยงตอนแข่งขัน ก็เลยลดหุ่นมาได้เยอะเลยครับ

การแข่งขันก็ใช้รีโมทบังคับนี่ล่ะครับ ผมคู่กับน้องโอ๊ต เด็กม.1 ที่อยู่ในโครงการ English- Technology ของโรงเรียน (ทำไมสมัยเรามันไม่มีฟะ)
กติกาอีกสักครั้งหนึ่งครับ อย่างที่บอกไปข้างต้นคือ การทำลายธงของคู่ต่อสู้ให้ได้ครับ แต่หากทำลายหุ่นยนต์คู่ต่อสู้ ให้ออกไปจากสนามได้ (คล้ายๆซูโม่) นี่ก็จะได้คะแนนไปเลย 20 คะแนนซึ่งหากเราสามารถทำลายได้ 2 ตัว ก็จะชนะทันทีครับ
งานนี้อยู่ที่การออกแบบหุ่นยนต์ด้วยครับ หากหุ่นยนต์ไม่มีแรงพอในการจะดันคู่ต่อสู้ ก็อาจจะโดนฝ่ายตรงข้าม กวาดเราลงจากสนามได้อย่างสบายๆ รวมไปถึงทีมเวิร์กด้วยครับ ว่าจะบังคับกันยังไง ใครเป็นฝ่ายทำลายธง ใครเป็นฝ่ายไปจัดการศัตรู ต้องช่วยเหลือกันดีๆ ว่างั้นครับ
สุดท้าย ผมก็ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ครับ
ผลการแข่งขัน ผมได้ที่ 4 ครับ (ภูมิใจมากๆครับ สำหรับปีแรก) สำหรับผมเอง ก็ลงแข่งขันหุ่นยนต์สร้างสรรค์ด้วยครับ เสร็จจากนี้ก็เรียกว่ามีงานต่อพอดีครับแต่เราผิดคาดกันนิดหน่อย คือเรื่องของคนที่นำเสนอครับ คือ อนุญาตให้มีเพียงคนเดียว งานผมก็เลยเข้าแบบไม่ได้ตั้งใจครับ


ตอนนำเสนอก็เป็นไปได้ด้วยดีครับ ทางนั้นเขาไม่สนเรื่องสคริปต์ที่เราเตรียมไปเท่าไร แต่เขาจะดูจากแนวคิดมากกว่าครับ ตอนที่เราทดลองการใช้งานก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ จะมีตอนนึงที่จะแสดงให้เขาดูว่า หากมีสิ่งกีดขวาง หุ่นยนต์จะหยุด แต่เจ้าน้องโอ๊ตที่คู่ผมนี่ล่ะครับ เขาเอาของไปวางแต่ไม่ได้วางไว้หน้าเซ็นเซอร์ เลยแป๊กนิดหน่อยครับ (เรื่องนี้เลยโดนบ่นกันไปเลย)

งานทุกอย่างในวันนี้เป็นไปได้ด้วยดีครับ ก่อนที่เราจะเดินทางกลับไปที่อาคารที่พัก คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายแล้วครับ ที่จะได้ทำกิจกรรมที่นี่ สำหรับวันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ประกาศผล และมอบรางวัลครับ แต่สำหรับพวกเรา จะอยู่ต่อเพื่อไปทัศนศึกษา ท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆในประเทศเกาหลีครับ


ในคืนนี้ เราก็มีกิจกรรมชาวค่ายครับ และอำลากันครับ ผมเองก็มีสิ่งที่เป็นของที่ระลึก ที่อาจารย์ทำเข็มกลัดของโครงการ English-Technology ไว้ครับ สำหรับแลกเปลี่ยน และก็มีสิ่งของอื่นๆที่ผมตั้งใจเตรียมมาจากบ้าน ก็คือ เหรียญเงินไทยนี่ล่ะครับ
ผมเองก็เตรียมไปแลก contact กับเพื่อนๆ ชาวค่าย มีน้องกลุ่มนึงล่ะครับที่เป็นเด็กเกาหลี ผมไปเจอน้องเขา ตอนที่น้องเขาไปเห็นหุ่นเรามั้ง แล้วก็ถามเกี่ยวกับการแข่งขันของเรา ก็เลยรู้จักกันครับ จากนั้นน้องเขาก็ไปเรียกพวกมาจากไหนไม่รู้ครับ เยอะแยะเลย




หลังจากนั้นก็มีการแสดงของแต่ละประเทศครับ เริ่มจากประเทศเจ้าภาพ อย่างเกาหลี ก็มีการแสดง ผมก็ไม่ทราบว่าเขาเรียกว่าอะไรนะ แต่น่าจะเป็นเหมือนกับการละเล่นพื้นบ้านของเขามีหุ่นยนต์มาแจมด้วยครับ
และมีอีกชุดนึงครับ ที่มาร้องเพลงให้ฟัง เป็นเพลงเกาหลีครับ ไม่รู้ความหมาย (แต่ไม่แน่ ถ้ารู้ความหมายอาจจะซึ้งไปเลยก็ได้)
จากสิงคโปร์ ก็เตรียมเพลงมาร้องให้ฟังเช่นกันครับ
และปิดท้ายด้วยพี่ไทย ที่เตรียมการแสดงถึง 3 ชุด ซึ่งก็จะเป็นศิลปะการป้องกันตัวของไทยทั้งหมด 2 ชุด และอีกชุดนึง เป็นรำวง เพลงลอยกระทงครับ นับว่าสร้างสีสันให้กับที่นั่นมากครับเป็นที่ตื่นตาตื่นใจ และเราก็ยังได้ชวนชาวค่ายมารำวงกันด้วยล่ะครับ (ทีมที่ทำการแสดงนี้ไม่ใช่โรงเรียนผมนะครับ)
คืนนี้ บอกตรงๆครับว่า สนุกและประทับใจมากครับ เราคิดถึงที่นี่มาก คิดถึงร้านไก่ชั้นล่างคิดถึง Family Mart , ตู้น้ำ และตู้โทรศัพท์ด้วยครับ
นอกเรื่อง…
ผมขอพูดถึงการโทรศัพท์มายังประเทศไทยนิดนึงครับ อยู่ที่นั่นผมเองไม่มีเวลาติดต่อใครมากครับ นอกจากแม่และเพื่อน ผมเองก็คิดหาวิธีตั้งแต่วันแรกแล้วครับ ในการติดต่อ
รุ่นน้องไปซื้อบัตรชนิดนึงตั้งแต่วันแรก หลังจากที่ลงจากสนามบินเลย มันจะเป็นเหมือนเติมเงินบ้านเรานี่ล่ะครับ แต่โทรไปต่างประเทศนี่ ลดเร็วเอามากๆครับ อันนี้แบบที่ 1
แบบที่ 2 ผมมาซื้อที่ Family mart ชั้นล่างของสถานที่พักครับ มันจะเป็นบัตรเติมเงินสำหรับโทรทางไกลไปต่างประเทศเลยครับ มันจะถูกเพราะมันคิดเป็นนาทีครับ (90 นาที – 5000 วอน) ก็เลยทำให้ผมได้คุยกันนานหน่อย ตอนไปซื้อเขาจะออกใบเสร็จมา ตอนที่จะโทรก็กดไปตามหมายเลขโทรศัพท์ที่อยู่ในใบเสร็จ กด หมายเลข PIN Number ที่อยู่ในใบเสร็จ ก่อนที่จะกด # แล้วตามด้วยรหัสประเทศและหมายเลขปลายทางครับ
ยังไงใครที่จะไปเกาหลี แล้วคิดจะโทรศัพท์ ลองหาบัตรโทรศัพท์ที่เป็นแบบ International Card นะครับ จะมีเป็นใบห้อยรวมกันอยู่ ตอนจ่ายเงินเขาให้เป็นใบเสร็จมาครับ
ยังเหลือกันอีก 2 ตอนนะครับ ยังไงก็ติดตามชมสำหรับ การเดินทางไปเกาหลีของผม ครั้งแรกและครั้งแรกที่ไปต่างประเทศครับ มีอะไรน่าสนใจอีกเยอะแยะเลยสำหรับวันพรุ่งนี้ซึ่งเราจะพาคุณผู้อ่านไปที่ Suwon ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Seoul ไปสัมผัสกับบรรยากาศที่อบอุ่นของหมู่บ้านคนเกาหลี Korean Folk Village ครับ
จะเป็นอย่างไรนั้น โปรดติดตามชมครับ
ดูทุกตอนของ Asia-Pacific Robofest Camp 2009
- ตอนที่ 1 – เดินทางถึงสนามบิน , สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ (Everland Resort) ,
เข้ามหาวิทยาลัย Hanyang , รับหุ่นยนต์ i-Robo , ประกอบหุ่นยนต์ - ตอนที่ 2 – แข่งขันหุ่นยนต์เก็บของ , หุ่นยนต์ซูโม่
- ตอนที่ 3 – พิธีเปิด Asia-Pacific Robofest 2009 , การแข่งขันหุ่นยนต์ต่อสู่้ , การแข่งขัน
หุ่นยนต์ความคิดสร้างสรรค์ , เล่นกับหิมะ , พิธีอำลาชาวค่าย - ตอนที่ 4 – พิธีมอบรางวัล , เที่ยวหมู่บ้านเก่าคนเกาหลี Korean Folk Village ,
ทานเนื้อย่าง เที่ยวที่ I’ Park , เดินทางพักที่ค่ายยุวชน International Seoul Youth Hostel
เที่ยวกลางคืนที่ เมียงดง - ตอนที่ 5 – เที่ยวพระราชวังเคียงบ๊อก Gyeongbokgung Palace , พิพิธภัณฑ์คนเกาหลี
The National Korean Folk Museum of Korea , ซื้อของที่ระลึกที่ Insadong , Lotte Mart
เดินทางกลับประเทศไทย
เจิมคอมเม้นแรก
อืมม พี่สต๊าฟคนนั้นเค้าหล่อจริงๆอะ 555
เออ.. คนเกาหลี เค้ากินน้อยหรอ?
เข้ามาดูน้องLisa (น่ารักโคตรๆ)
@vvee อันนี้ไม่ชัวร์จริงๆครับ กินเยอะ/กินน้อย แต่ก็น่าจะปกติเหมือนบ้านเรานะ แต่เห็นเป็นเด็กๆกันเฉยๆ ระดับชั้นไม่น่าจะเป็นตัววัด อยู่ที่อายุเด็กด้วยล่ะ
@inatmon หยุดความหื่นของเอ็งไว้ตรงนั้นเลย ฮี่ๆ
เจ๋งมาครับน้อง
ผมว่า Danny นะ ไม่ใช่ Denny เพราะเขาเซ็นชื่อให้เบนซ์แบบนี้
โว้ว.มีแต่อะไรเจ๋งเจ๋งทั้งน้านน…
มาเเล้วครับมาเเล้ว oatalone.com มาเเล้ว รูปตอนเเข่งหุ่นยนต์ผมครับเเต่ตยก่อนพี่เฟรม
อยากจับหิมะ..
เยี่ยมไปเลยครับ !!!
http://mekzcyclebin.blogspot.com
หุหุ ถึง ร.ร. น้องจะไม่มีชุดการแสดง
แต่ครู ร.ร. น้องก็มาช่วยพวกพี่แต่งหน้าน๊า
ทำให้ออกมาโอเคเลยล่ะ ไม่งั้นแต่ละคนจะหน้าจืดมาก 555+
อ้อ แล้วก็พี่ว่าอาหารเกาหลีอร่อยออกน๊า
พี่กินอร่อยทุกมื้อเลยอ่า(หรือว่าเป็นเพราะหิว -0-)
แล้วก็นะเห็นน้อยๆ อิ่มก่อนหมดทุกที เอิ๊กๆๆ