Homeเรียนต่อเกาหลีชีวิตในเกาหลีMy Year in Review in 2018 : เรียนรู้กับความไม่แน่นอน

My Year in Review in 2018 : เรียนรู้กับความไม่แน่นอน

ภาพรวม 2018 ของผม คงเป็นเหมือนดั่งชื่อบล็อก ปีนี้มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เพื่อน, หน้าที่การงาน ขอแบ่งมาบันทึกไว้เตือนตัวเองในปีถัดๆไป

เพื่อน

ช่วงต้นปีต้องสูญเสียเพื่อนสนิทจากอุบัติเหตุ เป็นเพื่อนที่ได้รับทุนรัฐบาลเกาหลี และเดินทางมาเกาหลีพร้อมกันกับผมเมื่อ 6 ปีก่อน ใช้ชีวิตในเกาหลีจนจบและเริ่มต้นชีวิตการทำงาน ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี

แต่ในเช้าของวันหนึ่ง ผมก็ได้ทราบข่าวเพื่อนประสบอุบัติเหตุ ก็ใจหายเพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว จำได้ว่าตอนนั้นกำลังเรียนอยู่ มือก็สั่นไปหมด ได้ไปช่วยงาน ช่วยครอบครัวของเพื่อน พร้อมกับพี่ๆน้องๆที่อยู่ในเกาหลี

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เห็นความสามัคคีของทุกคนที่จัดการกับเหตุการณ์ทั้งหมด หลายอย่างที่ต้องใช้ความคิดตลอดเวลา ทำงานภายในความเครียด ความกังวล มีที่ต้องติดต่อทั้งตำรวจ ทั้งโรงพยาบาล ซึ่งก็ขอบคุณน้ำใจของเพื่อนๆ รุ่นพี่รุ่นน้องทุกคนที่ช่วยเหลือคนละเล็กละน้อยจนทุกอย่างผ่านพ้นไป และความไม่แน่นอนครั้งนี้ก็ได้ทำให้พวกเราเรียนรู้ว่าควรใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทแค่ไหน ควรดูแลตัวเองให้ดีขึ้น ควรมีการแลกข้อมูลที่ติดต่อได้กับที่บ้าน (ที่ไทย) ไว้กับเพื่อนสนิท เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ที่บ้านก็ควรต้องรู้จักใครสักคนที่นี่ด้วย และแน่นอน การมีเพื่อนสนิทในต่างแดน ทั้งคนไทยหรือคนต่างชาตินั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก

การงาน

เป็นเรื่องส่งท้ายปีที่รู้สึกทำให้ชีวิตไม่แน่นอนอีกครั้ง เมื่อบริษัทมีแผนปรับโครงสร้างพนักงานใหม่ มีการลดจำนวนพนักงาน เหมือนจะเข้าข่ายต้องออกจากบริษัท เลยค่อนข้างกังวล เตรียมหางานใหม่ เตรียมยื่นวีซ่าอยู่อาศัย เพราะวีซ่าทำงานที่ถืออยู่เดิม หากมีเหตุต้องได้ออกจากบริษัทจริงๆ เราจะต้องรีบหาที่ทำงานใหม่ภายใน 14 วัน ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะไปหางานใหม่ (ปกติหางานที่นี่กว่าจะยื่นสมัคร สัมภาษณ์ ใช้เวลาจริงก็ร่วมหลายเดือน) เลยตัดสินใจสมัครวีซ่าอยู่อาศัยทั้งๆที่ไม่มีความพร้อม กลัวโดนปฏิเสธเอกสาร (เอกสารบางอย่างดูเหมือนไม่ครบถ้วน) แต่ตอนนั้นคิดในใจว่า ไม่มีอะไรจะเสีย ยื่นอะไรได้ก็ยื่นไปก่อน ขาดเหลืออะไรก็ค่อยมาเพิ่มทีหลัง

คือต้องบอกว่าการไปตม. เพื่อทำธุระต่างๆในเกาหลีเป็นเรื่องที่ยุ่งยากหน่อยครับ สำหรับชาวต่างชาติ แต่สุดท้ายผลก็คือได้วีซ่าอยู่อาศัยมา และงานก็ยังคงได้ทำที่เดิมอยู่ต่อไป ดีใจปนเสียใจ เพราะต้องได้ร่ำลาเพื่อนร่วมงานหลายคน การทำงานเลยอาจจะต้องเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง แต่ก็คิดว่าจะคุ้นชินกับมัน

ผมมีโปรเจ็คเล็กๆ ที่เริ่มประมาณกลางปี เป็นเว็บไซต์รีวิวการท่องเที่ยวเกาหลี จริงๆอยากทำเป็นวาไรตี้ รวมเรื่องราวจิปาถะเกี่ยวกับเกาหลีด้วย ชื่อว่า “จะไปเกาหลี” อยากสร้างคอนเทนต์แนวสร้างสรรค์ที่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้ เอาประสบการณ์ด้านภาษาเกาหลีและการใช้ชีวิตที่นี่ เขียนรีวิวดีๆ บทความดีๆ ให้คนอ่านได้ติดตามกัน เลยตัดสินใจเปิดเว็บนี้ขึ้นมา ส่วนบล็อกเฟรมคุงนี้ ก็ยังคงเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ไว้แชร์ความคิดของผมต่อไป … แอบเหลือเชื่อเหมือนกันว่า เว็บนี้อยู่มา 10 ปีแล้ว…

เว็บไซต์ รีวิว ท่องเที่ยวเกาหลี จะไปเกาหลี

ท่องเที่ยว

ปีนี้ได้กลับไทยไปทำเรื่องเกี่ยวกับเกณฑ์ทหาร ก็เป็นว่าเรียบร้อยผ่านพ้นไปด้วยดี ผมมีปัญหาเรื่องสายตาสั้น ก็กลับไทยไปตรวจสุขภาพและวันจริงก็ได้ไปยื่นสละสิทธิ์ผ่อนผัน และเข้าสู่กระบวนการปกติ

เกณฑ์ทหาร จังหวัดนครราชสีมา

มีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดในเกาหลี 3 เมือง คือ พยองชาง (평창) ตามที่ได้รีวิวไว้ใน บล็อกตอน สักครั้งกับประสบการณ์ชมโอลิมปิก PyeongChang Olympic ปีที่ผ่านมาเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาว จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ ก็รู้สึกเหมือนอยู่ในประวัติสำคัญของบ้านเขาล่ะครับ ซื้อตั๋วเข้าไปดูกีฬา ซึ่งเพิ่งจะเคยเหมือนกัน

พยองชังโอลิมปิก
พยองชางโอลิมปิก ที่จัดที่เมือง พยองชาง (Pyeong Chang) เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561

ไปเที่ยวเมือง ชอนจู (전주) เคยไปเมื่อ 3 ปีก่อน ครั้งนี้มีโอกาสได้ไปพักในบ้านฮันอก และเดินสำรวจรอบเมือง ไปติดตามกันได้ในตอน [เที่ยวเกาหลี] ใส่ชุดฮันบกไปเที่ยวหมู่บ้านฮันอกที่ชอนจู (Jeonju) กัน! 

และเมือง ซุนชอน (순천) ซึ่งอยู่ตอนใต้ของเกาหลี เป็นเมืองที่สงบ อบอุ่น และธรรมชาติดีงามระดับห้าดาว

เที่ยวเมือง ซุนชอน (Suncheon-si)
เมืองซุนชอน (Suncheon-si)

ส่วนต่างประเทศ ถ้าไม่นับประเทศไทย ปีที่แล้วได้ไปชมซากุระที่ญี่ปุ่นแบบช่วงพีคสุดๆ ย่านคันไซ ช่วงที่ไปเป็นต้นเดือนเมษายน ซากุระเรียกว่าบานสะพรั่ง นั่งรถไฟฟ้าไปเส้นทางไหนก็จะเห็นต้นไม้เป็นสีชมพูทั่วเมืองไปหมด ฟินมาก แต่จำได้ว่าตั๋วตอนนั้นก็แพงมาก (ขนาดเกาหลีอยู่ใกล้ญี่ปุ่น) ไปติดตามกันได้ใน [เที่ยวญี่ปุ่น] ตามลายแทงซากุระ 4 วัน 4 เมืองย่าน Kansai (ตอนที่ 1) และ [เที่ยวญี่ปุ่น 2018] จุดชมซากุระสวยๆในเกียวโต (ตอนที่ 2)

เดือน พฤษภาคม ยังได้จัดทริปด่วนมา Workshop กับเพื่อนๆที่ทำงาน ในประเทศเวียดนาม เมืองดานัง (Danang) นอนโรงแรมริมทะเล ไปเมืองฮอยอัน (Hoi An) ฟินสุดๆก็ตรงที่เวียดนามเป็นเมืองที่ผลิตกาแฟส่งออก (ผมก็เป็นคนที่อินกับทุกอย่างที่เป็นกาแฟ) เลยได้อุปกรณ์ทำกาแฟ ชุดดริปและกาแฟมาอีกหลายห่อ

ถ่ายกับเพื่อนร่วมงานที่เมืองฮอยอัน

ไปเที่ยวพม่า 2 เมืองใหญ่ ย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ คิดไว้นานแล้วว่าจะต้องไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านสักครั้ง ปีนี้เลยตัดสินใจไปเที่ยวพม่าช่วงเดือนกันยายน ไปติดตามกันได้ในบล็อกตอน เที่ยวพม่าต่อไม่รอแล้วนะ เที่ยวพม่า 2 เมืองย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์ | ตอนที่ 1และ เที่ยวพม่าต่อไม่รอแล้วนะ เที่ยวพม่า 2 เมืองย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์ | ตอนที่ 2

เครือข่ายใหม่ๆ

ปีนี้มาช่วยเหลืองานให้กับ NIIED ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ทุนเฟรม โดยทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆของทุน ติดต่อรุ่นพี่ ศิษย์เก่าที่ได้รับทุนรัฐบาลเกาหลีในปีก่อนๆ เลยมีโอกาสได้พูดคุย เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ หลายเรื่องที่เราไม่เคยรู้เกี่ยวกับกิจกรรมของเครือข่ายทุนรัฐบาลเกาหลี รู้เส้นทางของรุ่นพี่แต่ละคนว่าส่วนใหญ่ไปประกอบอาชีพอะไร เลยทำให้รู้ว่าเครือข่ายนักเรียนทุนรัฐบาลเกาหลีมีอยู่ทั่วโลกและกว้างขวางมาก มีโอกาสได้สัมภาษณ์รุ่นพี่และได้แชร์เรื่องราวลงในบล็อกตอน พบ “อ.ออย กาญจนา” ศิษย์เก่าทุนรัฐบาลเกาหลีในงาน GKS Alumni Invitation Program

ช่วงปลายๆปี มีโอกาสมาบรรยายงานแนะแนวเส้นทางการทำงานต่อที่ประเทศเกาหลี ที่จัดโดยชุมชนนักเรียนไทยในเกาหลี ไปพูดคุย 30 นาที แชร์ประสบการณ์ให้กับรุ่นเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่มาฟังกัน วันนั้นทำให้รู้เลยว่ามีนักเรียนไทยที่มาศึกษาต่อในประเทศเกาหลีเยอะขึ้นเรื่อยๆทุกปี เนื้อการบรรยายสรุปคร่าวๆเอาไว้ในบล็อกตอน พบปะรุ่นพี่ทุนรัฐบาลเกาหลี ในงานแนะแนวทำงานต่อเกาหลี “จบแล้วไปไหน”?

และอีกงานที่รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ คือการได้มาเปิดประสบการณ์เป็นวิทยากรรับเชิญบรรยายในมหาวิทยาลัย หัวข้อที่บรรยายเป็นเรื่องเกี่ยวกับสื่อโซเชียล ว่าคนไทยมีพฤติกรรมการใช้งานโซเชียลอย่างไร ทำคอนเทนต์ให้คนไทยต้องคำนึงเรื่องใดบ้าง ให้กับนักเรียนเกาหลีเอกภาษาไทย ที่ลงเรียนคลาสคอนเทนต์วัฒนธรรมไทย มหาวิทยาลัยฮันกุ๊ก (Hankuk University of Foreign Studies) โดยได้รับความไว้วางใจจากอ.เกวลิน อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยฮันกุ๊ก

ประเมินตัวเอง

ปี 2018 จำได้ว่าไม่ได้มาตั้ง resolution บอกตัวเองว่าจะทำอะไรในปี 2019 แต่ไปพิมพ์เอาไว้ตอนเดือนกุมภาพันธ์ ที่ครบรอบ 6 ปี ชีวิตที่เกาหลี แน่นอนว่าปีนี้ก็จะเข้าสู่ปีที่ 7 มีอะไรหลายเรื่องที่ได้ทำและไม่ได้ทำ

เป้าหมายออกกำลังกาย : สุดท้ายยิมคนเยอะมาก จัดตารางเวลา การกินก่อนออกกำลังกายไม่ได้ เลยจำเป็นต้องหยุดไปเพราะรู้สึกว่าไม่คุ้ม หลังจากไป PT ต้นปีก็พบว่าเรากล้ามเนื้อค่อนข้างเกร็ง ไม่ยืดหยุ่น พอไม่ได้ไปออกกำลังกายต่อ ก็จะอาศัยว่า stretching อยู่ที่บ้านไปก่อน และตั้งเป้าหมายดื่มน้ำให้เยอะขึ้น

เป้าหมายไม่ประมาทกับชีวิต : อันนี้ประคับประคองตัวเองมาดีตลอดทั้งปี จะลงจากรถไฟฟ้า ก้มหันไปมองที่นั่งว่าลืมอะไรหรือเปล่า ทำแบบนี้ตลอดจนเป็นนิสัย (หรือระแวงก็ไม่แน่ใจ) จะออกจากบ้านเช็คไฟ ปิดสวิตช์ กลัวเรื่องไฟฟ้าลัดวงจรอะไรพวกนี้เหมือนกัน หลังๆมีข่าวแบบนี้ที่เกาหลีบ่อย พวกนี้คือเป็นแพทเทิร์นในชีวิตไปแล้ว .. ปีนี้ก็จะต้องไม่มีเรื่องอะไรที่พลาดจากความประมาทของตัวเอง

เรื่องเรียนภาษาญี่ปุ่น : มีความชอบแต่ไม่ได้สานต่อความชอบให้มันเป็นรูปเป็นร่างเท่าที่ควร มันเลยอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จในการเรียนมากนัก ก็ยังคง hold ไว้ แต่ก็ดีใจที่ได้เริ่มต้น

เป้าหมายสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ : ออกมาจากคอมฟอร์ทโซนหลายเรื่อง ได้ลองไปเข้ายิม ได้ไปเจอคนใหม่ๆ พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ก็ยังคงท้าทายอะไรใหม่ๆด้วยสิ่งใหม่ๆอีกในปีนี้ และหวังว่าจะมีโอกาสใหม่ๆเปิดรับเข้ามาอีกอยู่เสมอๆ

สิ่งที่อยากทำในปี 2019

  1. ปกติทุกปีจะตั้งเป้าหมายทำโปรเจ็คใหม่ๆไว้อยู่เสมอ คงหาโอกาสทำอะไรใหม่ๆ ที่อยากลองทำมานาน รวมถึงทำของเก่าให้ดีอย่างบล็อก หรือเว็บไซต์ท่องเที่ยวเกาหลี จะไปเกาหลี (JapaiKorea.com) ให้ดีขึ้นด้วย
  2. อยากลองเรียน หาประสบการณ์ใหม่ๆที่มากกว่าเรื่องวิชาการ มีความคิดอยากจะเรียนนวดแผนไทย ไปจนถึงบาริสต้า!
  3. อยากเจอผู้คนที่มีความชอบคนละแบบกับเรา มีความถนัดแตกต่างกับเรา เพื่อให้ได้แลกเปลี่ยนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ

 

หวังว่าปี 2019 จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความหวัง และทุกอย่างเป็นเรื่องหมูๆ ให้สอดคล้องกับปีหมู 2019 (๒๕๖๒) นี้ครับ 🙂

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรื่องอื่นๆ